‘ปิยบุตร’แถลงปิดคดี-เงินกู้อนค.

‘ปิยบุตร’แถลงปิดคดี-เงินกู้อนค. – หมายเหตุ : นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงปิดคดีนอกศาลรัฐธรรมนูญ กรณี พรรคอนาคตใหม่กู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จำนวน 191 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่พรรคอนาคตใหม่ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยวันที่ 21 ก.พ.

พรรคอนาคตใหม่จะแถลงการปิดคดีเงินกู้ใน 5 ประเด็น คือ

ประเด็นที่ 1 ทำไมพรรคอนาคตใหม่จึง กู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค

เพราะว่าภายหลังเมื่อได้จัดตั้งพรรคในเดือนต.ค. 2561 พรรคเริ่มระดมทุน รับบริจาค แต่ใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง เรียกร้องพรรคการเมืองในหลายเรื่อง อาทิ การหาสมาชิกให้ครบ ตั้งสาขาพรรคอย่างน้อย 4 สาขา อีกทั้งยังมีประกาศคสช. ประกาศห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง

รวมทั้งคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) แจงข้อห้ามต่างๆ เช่น ห้ามขายสินค้าออนไลน์ ต้องขายหน้าร้านเท่านั้น หรือการรับบริจาคได้เฉพาะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น ไม่เกิน 10 ล้านบาท/คน/ปี และจัดกิจกรรมระดมทุนไม่ได้ทั้งสิ้น กฎหมายเรียกร้องให้เราทำเต็มไปหมด แล้วพรรคที่เกิดใหม่ทั้งหมดจะทำอย่างไร

พรรคเก่าย่อมมีสาขา มีเครือข่าย มีงบก้นถุงอยู่แล้ว แต่พรรคใหม่ต้องเริ่มต้นเดือนต.ค. 2561 และมีการเลือกตั้งในเดือนมี.ค. 2562 พรรคอนาคตใหม่จึงตัดสินใจกู้เงิน

ส่วนพรรคพลังประชารัฐจัดระดมทุนโต๊ะจีน ได้มา 622 ล้านบาท มีบริษัทในเครือ คิง เพาเวอร์ ระดมทุนบริจาคกันหมด 3 บริษัท และบริษัททุนอื่นๆ อีก ส่วนพรรครวมพลังประชาชาติไทย ระดมทุนได้ 240 ล้านบาท นี่คือทางเลือกที่แตกต่างกันทั้งหมด 3 พรรค

พรรคอนาคตใหม่ไม่ต้องการรับเงินจากทุนขนาดใหญ่ ไม่ต้องการทุนผูกขาด มีบริษัทติดต่อมาแต่พรรคขอไม่รับ เพราะเราไม่ต้องการให้มีนายทุนมาครอบงำ จึงขอกู้เงินจากนายธนาธร เพราะเราไม่ต้องการปกปิด มีแจ้งในงบการเงิน เราต้องการให้เกิดความโปร่งใส และมีการชำระหนี้ตามสัญญาเงินกู้

ประเด็นที่ 2 พรรคการเมืองในประเทศไทย กู้เงินได้หรือไม่

คำตอบคือ กู้เงินได้ เพราะพรรคการเมืองคือนิติบุคคล หรือบริษัทเอกชน ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ ฉะนั้นบริษัทเอกชนย่อม กู้เงินได้ภายใต้อำนาจของกฎหมายที่กำหนดไว้ เข้าหลักทำได้ทุกอย่างเว้นแต่กฎหมายห้ามไม่ให้ทำ เราจึงไปสำรวจว่ากฎหมายห้ามอะไรบ้าง

กกต.ได้ให้คู่มือเกี่ยวกับความผิดและโทษเกี่ยวกับเลือกตั้ง ซึ่งไม่มีข้อใดที่ระบุว่าพรรคการเมืองห้ามกู้เงิน เมื่อกฎหมายทั้งฉบับทุกมาตราไม่มีข้อห้ามกู้เงิน และเรายืนยันชัดเจนว่าทุกกฎหมายไม่มีข้อห้ามเรื่องการกู้เงิน

นอกจากนี้ เราตรวจสอบพรรคการเมืองอื่นพบว่า มี 16 พรรค ที่ใช้คำว่าเงินยืม เงินทดรองจ่าย ขณะเดียวกัน มี 4 พรรค ที่ระบุคำว่ากู้เงิน คือ พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังท้องถิ่นไทย พรรคเงินเดือนประชาชน และพรรคพลังประชาชาติไทย ทั้งหมดนี้อยู่ในนิติกรรมในการยืม ทั้งสิ้น

ประเด็นที่ 3 เงินกู้ ไม่ใช่รายได้ ไม่ใช่เงินบริจาค หรือประโยชน์อื่นใด

แต่เงินกู้ คือ หนี้สิน ในงบการเงินเงินกู้จะอยู่ในหมวดของหนี้สิน อีกทั้งตามมาตรา 62 ของพ.ร.ป.พรรคการเมือง ระบุที่มาของรายได้ว่าไม่มีเรื่องเงินกู้ เพราะเป็นรายได้ ไม่ใช่หนี้สิน

และเงินกู้ ไม่ใช่ เงินบริจาค เพราะเงินกู้ต้องใช้คืน เราทำทุกอย่างในเรื่องเงินกู้อย่างโปร่งใส มีเอกสารกู้เงิน มีการชำระหนี้ตามกฎหมาย ซึ่งกกต.ให้เหตุผลว่า กู้ 191 ล้านบาท พรรคอนาคตใหม่มีปัญญาใช้คืนหรือไม่ ตนก็ตั้งคำถามในใจว่า ทำไมไม่ไปถามพรรคอื่นบ้าง เพราะมีทั้งการยืมและเงินกู้เช่นเดีวกัน

ประเด็นที่ 4 การดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมายของกกต.

กกต.ใช้กฎหมายพ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 66 ในการบริจาคเงินเกิน 10 ล้านบาท และความผิดตามมาตรา 72 คือ การรับเงินที่ไม่ชอบโดยกฎหมาย ซึ่งเริ่มต้นจากการมีนักร้องไปร้องกกต.ตามมาตรา 66 ก็ยืนต่อคณะที่ 13 และมีมติยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่าพรรคการเมืองกู้เงินได้

ต่อมากกต.ส่งเรื่องไปยังสำนักสืบสวนที่ 18 อีก และมีมติเอกฉันท์ยกคำร้องเช่นเดียวกัน แต่กกต.ยังไม่หยุด ส่งเรื่องไปยังอนุฯ โดย 3 เสียงแจงว่าผิด ส่วนอีก 2 เสียงให้ยกคำร้อง

ซึ่งมาตรา 66 มี 2 คณะที่ยกเรื่องไปแล้ว และตามกฎหมายการเลือกตั้ง มาตรา 41 ว่าหากกรรมการไต่สวนยกเรื่อง ต้องยุติทันที แต่กรณีนี้กกต.ยังเดินเรื่องต่อไปเรื่อยๆ

ส่วนมาตรา 72 กกต. ตั้งฐานความผิดฝ่าฝืนมาตรา 62, 66 และ 72 เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2562 และกกต.ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอยุบพรรคในวันที่ 11 ธ.ค. ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ และไม่เคยแจ้งข้อกล่าวหามายังพรรคอนาคตใหม่เลย

หลักประกันของพรรคอนาคตใหม่ในการต่อสู้ในชั้นการพิจารณากกต.อยู่ตรงไหน กกต.เป็นองค์กรอิสระไม่ใช่นักร้องที่จะหยิบบัตรสนเท่ห์และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ กกต.จะรีบอะไรขนาดนั้น ไม่เคยสร้างหลักประกันใดๆ

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีบรรทัดฐานว่า การพิจารณาคดีข้ามขั้นตอนของกกต.เป็นสาระสำคัญที่ทำให้มีการวินิจฉัยยกคำร้องมาแล้วจากกรณีพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกกล่าวหารับเงินจากเอกชน

ประเด็นที่ 5 ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการยุบพรรค การเมือง และไม่มีอำนาจตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค

กล่าวคือ รัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 มาตรา 210 (3) บัญญัติว่าหน้าที่และอํานาจอื่นตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

ซึ่งเมื่อพิจารณารัฐธรรมนูญแล้ว ไม่มีมาตราใดที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค โดยอำนาจยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรคมีอยู่ในมาตรา 92 ของกฎหมายพรรคการเมืองเท่านั้น

ดังนั้น ประเด็นนี้เป็นประเด็นข้อกฎหมายที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัยก่อนว่ามาตรา 92 ของกฎหมายพรรคการเมืองขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่

บทลงโทษของมาตรา 66 มีแต่โทษเพิกถอนสิทธิของบุคคลที่บริจาคเงินเกิน และโทษปรับบุคคลที่บริจาคเงินเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด ส่วนพรรคที่รับเงินดังกล่าวก็ต้องส่งเงินคืนและเพิกถอนสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคเท่านั้น โดยไม่มีการยุบพรรค

ที่สำคัญ กระบวนการนี้ต้องเป็นไปตามกระบวนการปกติ คือ กกต.พิจารณาและส่งศาลอาญาและสู้กันถึงสามศาล โดยศาลรัฐธรรมนูญไม่เกี่ยว

ส่วนกรณีมาตรา 72 กฎหมายมีวัตถุประสงค์ป้องกันไม่ให้พรรคการเมืองเอาเงินสีเทามาใช้ในพรรค ถามว่าการกู้เงินผิดตรงไหน เพราะเงินที่มาก็มีแหล่งที่มาที่ถูกกฎหมาย ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมาตรา 72 เหตุที่ต้องหยิบ 72 มาเป็นประเด็นเพราะกกต.เห็นว่ามีโทษยุบพรรค กกต.ถึงจะส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคได้

การบอกว่าเมื่อกฎหมายไม่ให้กู้เงินแล้วโดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยมิชอบย่อมเป็นความผิดนั้น ขอชี้แจงว่าพรรคไม่มีทางรู้ว่ากกต.จะตีความพิสดารขนาดนี้ ถ้าพิสูจน์เจตนาก็ชัดเจนว่าพรรคไม่มีทางรู้เลยว่ากกต.จะตีความแบบนี้

ดังนั้น ยืนยันได้ว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่มีความผิดตามมาตรา 62 มาตรา 66 มาตรา 72 ศาลรัฐธรรมนูญต้องยกคำร้อง

วันที่ 21 ก.พ. หากยุบพรรคจริง จะเป็นครั้งแรกที่ยุบพรรคฝ่ายค้านและยุบก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ 3 วัน พรรคอนาคตใหม่เราได้เริ่มต้นสร้างความหวังใหม่ให้กับคนรุ่นหนุ่มสาว ถ้าเกิดการยุบพรรคขึ้นจะไม่ใช่แค่การยุบพรรคเท่านั้น แต่เป็นการยุบความหวังของคนรุ่นใหม่ เพราะเป็นการทุบเข้าไปที่หัวใจของคนจำนวนมากที่หวังว่าประเทศไทยจะไปสู่จุดที่ดีกว่าเดิม

และยังเป็นการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นที่ต้องการให้ประเทศไทยหลุดจากวงจรรัฐประหาร และการลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาการประชาธิปไตยกำลังเดินไปตามครรลอง อย่าเอานิติสงครามมาเป็นเครื่องมือ เพราะไม่เป็นคุณต่อการพัฒนาประเทศไทย ตรงกันข้ามจะตอกลิ่มให้ความแตกแยกร้าวลงไปเรื่อยๆ

ฝากถามไปยังกกต.และผู้บริหารกกต.ในฐานะผู้ร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ว่าตื่นเช้ามาในแต่ละวันส่องกระจกแล้วถามตัวเองดังๆ ว่าคุณต้องการยุบพรรคเพราะเป็นพรรคอนาคตใหม่ใช่หรือไม่ และไม่ต้องการให้ธนาธร และปิยบุตร มีบทบาทในทางการเมืองใช่หรือไม่

ในวันที่ 21 ก.พ.นี้พรรคจะนัดส.ส. กรรมการบริหารพรรค และผู้สนับสนุนของพรรคมาร่วมฟังคำวินิจฉัยพร้อมกันในเวลา 15.00 น. ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ และจะเปิดขายสินค้าของพรรค รับบริจาคและเปิดรับสมัครสมาชิกพรรค เพื่อให้เห็นกันไปว่าพรรคที่กำลังโดนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กลับsมี ผู้มาสนับสนุนจำนวนมาก

ท้ายที่สุดแล้ว หนังยุบพรรคเรื่องนี้จะ ไม่เหมือนเดิม เพราะพรรคอนาคตใหม่จะ ไม่หายไป ธนาธร และปิยบุตรจะไม่หายไป แต่จะเห็นว่าพวกเราโลดแล่นมากกว่าเดิม และส.ส.ของพรรคจะไม่เติมให้กับรัฐบาล

และในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ เรายืนยันว่าเราไม่ผิดตามมาตรา 62, 66 และ 72 ศาลรัฐธรรมนูญต้องยกคำร้อง จะยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคไม่ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน