จะเคอร์ฟิวก็รีบทำ! กมธ.พาณิชย์จี้รัฐหยุดการเคลื่อนที่ของประชาชน-แนะยกแอลกอฮอล์เป็นสินค้าควบคุม

 

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการและโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์ และทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวถึงผลกระทบจากการปิดจุดเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ในกทม.ว่า แม้จะเห็นด้วยกับมาตรการในการปิดกทม. แต่คิดว่า รัฐบาลยังหยุดการเคลื่อนที่ของประชาชนไม่ได้ จากตัวเลขผู้ติดเชื้อในกทม.ที่ยังสูงขึ้นเรื่อยๆนั้น การกลับภูมิลำเนาของประชาชนในขณะนี้กำลังทำให้เชื้อไวรัสโควิด-19 กระจายไปยังพื้นที่ตามต่างจังหวัด ต้องยอมรับว่า อุปการณ์ทางการแพทย์ตามโรงพยาบาลในต่างตังหวัด ไม่สามารถรองรับการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ได้เทียบเท่ากับในกทม.

สิ่งสำคัญวันนี้รัฐบาลต้องมีมาตรการเพื่อจำกัดคนให้อยู่แต่ในกทม. แต่สิ่งที่ปรากฏ นอกจากขอความร่วมมือจากประชาชนแล้ว รัฐบาลไม่ได้มีมาตรการใดๆ ทั้งการปิดขนส่ง หรือมาตรการเยียวยาเพื่อรองรับให้ประชาชนอยู่ในกทม.เลย ต้องเห็นใจประชาชน เพราะชีวิตในช่วงปิดงาน และอยู่ในกทม.มีต้นทุนสูง มีรายจ่าย ก่อนที่จะมีมาตรการปิดเมือง รัฐบาลไม่ได้มีมาตรการอะไรมารองรับเลยว่า อยู่กับที่แล้วรัฐบาลจะดูแลอะไรให้ได้บ้าง

“ผมให้กำลังใจรัฐบาล วันนี้จะทำอะไรต้องรีบทำแล้ว จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรืออะไรก็ตาม ประชาชนพร้อมให้ความร่วมมืออยู่แล้ว แต่รัฐบาลต้องคำนึงถึงผลกระทบอีกด้านกับประชาชนในทุกส่วนด้วย เพื่อหามาตรการมารองรับ ไม่เช่นนั้นจะเป็นมาตรการแก้ปัญหาที่ซ้ำเติมสถานการณ์เข้าไปอีกแบบที่กำลังเป็นอยู่ และขอเสนอให้รัฐบาลกำหนดให้แอลกอฮอล์เป็นสินค้าควบคุมเหมือนกับหน้ากากอนามัย เพราะขณะนี้ชาวบ้านหาซื้อไม่ได้ อีกทั้งยังมีของปลอมไม่ได้มาตรฐานอีก หากไม่เร่งดูแลจะมีปัญหาต่อผู้ป่วย อาทิ โรคไต โรคเบาหวาน ซึ่งได้รับผลกระทบแล้ว”นายอัครเดช กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน