“เต้ มงคลกิตติ์” บริจาคเงินเดือน ส.ส.กว่า 4 ล้าน เข้ากองทุนช่วยโควิด-19

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 9 เม.ย. ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นหนังสือต่อเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขอบริจาคเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ส.ส. เข้ากองทุนสมทบป้องกันโควิด- 19 ของรัฐบาล ตั้งแต่งวดวันที่ 30 เมษายน 2563 ถึง 31 มีนาคม 2566 หรือจนกว่ายุบสภาหรือหมดวาระสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งรวมแล้วจะเป็นเงินประมาณ 4 ล้านบาท

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เนื่องจากวิกฤตนี้ร้ายแรงไปทั่วโลก ไม่มีใครทราบได้ว่าวิกฤตนี้จะสิ้นลงเมื่อใด และล่าสุดรัฐบาลได้ออกพระราชกำหนด(พรก.)กู้เงิน กว่า 1.9 ล้านล้านบาท ถือเป็นการกู้ครั้งสุดท้ายและจะกู้ไม่ได้อีก เนื่องจากเกินลิมิตร้อยละ 60 ของหนี้สาธารณะต่อตีดีพี จึงกู้ไม่ได้อีก และหากแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ภายใน 6 เดือน ทางสุดท้ายเหลือแค่ขายทรัพย์สินภายในประเทศ ซึ่งปัญหาครั้งนี้ใหญ่หลวงนักมากกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 ถึงประมาณ 3 เท่า เหมือนกับครั้งนี้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3

เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
เพิ่มเพื่อน

ดังนั้นคนไทยทุกคนต้องช่วยกันฝ่าฟัน และยอมเสียสละ ตนในฐานะนักการเมือง ส.ส. ไม่สามารถทนเห็นความเดือดร้อนของประชาชนตาดำๆได้ ไม่สามารถที่จะทนรับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ที่เป็นภาษีของพี่น้องประชาชนได้อีก

ส่วน ส.ส.หรือ ส.ว.ท่านอื่นจะดำเนินการตามหรือไม่ ขอให้เป็นดุลพินิจส่วนบุคคล แต่ขอขอบคุณนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ที่จุดประกายเรื่องนี้ นอกจากนี้ขอเรียกร้องไปยังนายทุนและเจ้าสัว ให้ออกมาช่วยกันแก้ปัญหาในครั้งนี้

การบริจาคเงินขอให้เป็นดุลพินิจส่วนบุคคล แต่สถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้ ทุกคนเดือดร้อนกันหมด เราจะเอาตัวรอดเฉพาะครอบครัวเรา เราอาจเอาตัวรอด แต่ประชาชนไม่รอด ตัว ส.ส. ส.ว.รัฐบาล เจ้าสัว นายทุน ก็ไม่รอดเหมือนกัน เพราะสุดท้ายหากเราแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ภายใน 6 เดือน เราไม่มีเงินให้เขาแล้ว คนพวกนี้ก็จะไม่มีอันจะกิน เขาก็จะใช้วิธีปล้นสะดมกัน

เพราะฉะนั้นอย่าให้ต้องทุบหม้อข้าว เพราะการกู้เงินครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เราไม่สามารถกู้ได้อีกแล้ว เพราะมันชนเพดานแล้ว มันคล้ายๆกับการเสียกรุงครั้งที่ 2 ต่างแค่เป็นสงครามที่มีศัตรูเป็นไวรัส เท่านั้นเอง ซึ่งมันร้ายกาจกว่าศัตรูที่เป็นมนุษย์หลายเท่า จึงอยากให้สมัครสมานสามัคคี และร่วมกันเสียสละให้ถึงที่สุด สุดท้ายถ้าสถานการณ์ไปต่อไม่ได้ กู้ไม่ได้ พวกเราเองในฐานะที่เป็น ส.ส มีทรัพย์สินเท่าไหร่ก็คงต้องขายทั้งหมด เพื่อนำมาช่วยเหลือให้ประเทศไทยผ่านจุดนี้ไปได้” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน