อุตตม เผย เยียวยา 5,000 บาท อีก 2 เดือนที่ยังจ่ายไม่ได้ ขึ้นอยู่กับพ.ร.ก.กู้เงินผ่าน-มีผลบังคับใช้เมื่อใด ถึงจะสามารถดำเนินการกู้เงินได้
จากกรณีที่มีคำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลด้านผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ตามมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล
วันที่ 15 เม.ย. นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการที่พ.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งขึ้นไม่ได้ดูเรื่องแจกเงิน 5,000 บาทอย่างเดียว แต่จะดูเรื่องการแจกเงินทุกเรื่อง ทุกมาตรการเยียวยา ในส่วนการแจกเงิน 5,000 บาทในมาตรการ เราไม่ทิ้งกัน ต้องนำเข้าหารือในคณะกรรมการชุดนี้เช่นกัน
ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีเงินจ่ายในมาตรการแค่เดือนเม.ย.เพียงเดือนเดียวนั้น เข้าใจว่าเป็นงบประมาณที่กันไว้จากปีงบประมาณ 2563 แต่เมื่อมีการกู้เงินจากพ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ก็จะมีการใช้เงินในส่วนนี้ ซึ่งเป็นไปตามแผน ดังนั้นส่วนเงินที่จะจ่าย 5,000 บาทอีก 2 เดือน (พ.ค.-มิ.ย.) กำลังพิจารณาอยู่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า พ.ร.ก.กู้เงินจะผ่าน มีผลบังคับใช้เมื่อใด ถึงจะสามารถดำเนินการกู้เงินได้
นายอุตตม กล่าวว่า ในส่วนของขั้นตอนการเปิดให้ทบทวนสิทธิ์ เป็นไปตามที่ตกลงไว้คือวันที่ 20 เม.ย.2563 ก็จะเปิดให้ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์ในระบบ แจ้งทบทวนสิทธิ์ ซึ่งก็จะทำไปต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องรอให้การตรวจคุณสมบัติครบกว่า 27 ล้านคนที่ลงทะเบียนทั้งหมด เป็นการทำต่อเนื่องไป ส่วนคนที่จะยื่นขอทบทวนก็สามารถยื่นเข้ามาได้เรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม การขอทบทวนสิทธิ์ได้ใช่หมายความว่าจะได้เงิน 5,000 บาททุกคน ก็จะมีการดูว่าข้อมูลส่วนไหนที่ขาดหายไป เมื่อได้ข้อมูลก็จะทบทวนเป็นรายคนว่าสมควรจะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทหรือไม่
ส่วนกรณีที่คนไม่เชื่อในระบบเอไอตรวจสอบคุณสมบัตินั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับเอไอ เพราะคลังไม่ได้ใช้แต่เอไอในการคัดกรอง เอไอเป็นแค่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งช่วยจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ไม่ใช่เอไอเป็นผู้ตัดสินใจว่าใครได้ไม่ได้รับเงิน มีการทบทวน มีการดูแลข้อมูล มีเจ้าหน้าที่ เพียงแต่ข้อมูลมีจำนวนเยอะ ก็ใช้เอไอเข้ามาช่วยดูแลข้อมูลเท่านั้น แต่ไม่ได้ปล่อยให้ระบบเป็นผู้ตัดสินใจแน่นอน
นายอุตตม กล่าวว่า หลังจากที่แจ้งทบทวนสิทธิ์แล้วเมื่อเข้าสู่ระบบในวันที่ 20 เม.ย. จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บข้อมูลรายบุคคล เพื่อทบทวน จะมีการใช้เจ้าหน้าที่คลังจังหวัด ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกระทรวงมหาดไทย จะเข้าไปดูข้อมูลเป็นรายบุคคล ในพื้นที่ที่เข้ามายื่นทบทวนสิทธิ์ ซึ่งตอนนี้กำลังประชุมประสานงานกันอยู่ ทั้งปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน ทำให้เห็นว่า “นี่ไง คลังใช้คนทำ ไม่ใช่เอไอเอเลย”
“ตอนนี้กำลังเตรียมงานอยู่ เชื่อว่าอาทิตย์หน้าจะเริ่มทันที ส่วนยื่นมาแล้วจะผ่านหรือไม่ ก็ต้องดูอยู่ เจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะตอนนี้เปิดให้ทุกคนที่ไม่ผ่าน มาให้ข้อมูลเพิ่ม ก็จะส่งไปดูเป็นรายคนเลย เบื้องต้นจะขอดูเฉพาะคนที่มายื่นทบทวนก่อน ส่วนคนที่ได้ไปแล้วก็จะมีการตรวจสอบภายหลัง ที่ไม่เหมาะสม”
ส่วนมาตรการดูแลเกษตรกร กำลังทำงานกันอยู่ ถ้ามีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบโดยเร็ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
