เลขา สมช. เตรียมเสนอ บิ๊กตู่ 27เม.ย.นี้ ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ ยอมรับสถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย เร่งถกเอกชน หาวิธีผ่อนปรนมาตรการ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 เม.ย. ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธานประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อประเมินสถานการณ์การประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และมาตรการข้อกำหนดต่าง ๆ

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวภายหลังประชุม ว่า วันนี้เป็นเพียงการประชุมระดับเจ้าหน้าที่ ซึ่งในวันที่ 27 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศูนย์บริหารสถานการณ์ฺการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. จะเรียกประชุมร่วมกับ ศบค. อีกครั้ง เพื่อสรุปว่าจำเป็นต้องประกาศต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปหรือไม่ หากที่ประชุมเห็นสมควรต่ออายุออกไป จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้งวันที่ 28 เม.ย.

อย่างไรก็ตา ในส่วนความเห็นของหน่วยงานด้านความมั่นคงมองว่าสถานการณ์ยังไม่เรียบร้อยเท่าที่ควร จึงน่าจะต่อขยายออกไปอีก แต่จะเป็นระยะเวลาเท่าใดขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประเมิน และตัดสินใจ ซึ่งจะหารือร่วมกับสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในส่วนความพร้อมเพื่อเตรียมผ่อนปรนมาตรการต่อไป

พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขา สมช. เตรียมเสนอนายกฯ ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขา สมช. เตรียมเสนอนายกฯ ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการพิจารณาผ่อนปรนข้อกำหนดและมาตรการต่างๆ ในการประชุม ศบค.วันที่ 27 เม.ย. จะมีความชัดเจนอีกครั้ง วันนี้เป็นเพียงการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์และพิจารณามาตรการต่างๆ ว่ามีกิจกรรมใดบ้างที่ควรจะผ่อนปรน โดยบ่ายวันเดียวกันนี้จะเชิญภาคธุรกิจมาร่วมหารือและรับฟังความคิดเห็น

เพื่อลงไปในรายละเอียดว่าถ้าหากผ่อนปรนแล้วจะมีวิธีการอย่างไร ซึ่งเราจะต้องทำอย่างระมัดระวังและรอบคอบมากที่สุด ส่วนจะผ่อนปรนกิจกรรมใดบ้าง ต้องดูอีกครั้ง ซึ่งต้องเป็นกิจกรรมเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน

รายงานข่าวจากที่ประชุม สมช.เปิดเผยว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงที่ดูแลและรับผิดชอบตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีความเห็นที่จะเสนอต่อนายกรัฐมนตรีให้ขยายเวลาการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีกหลังจะหมดอายุลงวันที่ 30 เม.ย.นี้ เพราะจากการประเมินสถานการณ์รวมทั้งจากผลโพลที่สำรวจความคิดเห็นประชาชนที่ผ่านมา ยังมีความเห็นว่าควรต้องต่ออายุต่อไปอีก เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนจะขยายเวลาไปอีกเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีตัดสินใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน