เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำกปปส. และอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเข้าพบพล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สปท. นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สปท. และพ.ต.อ .วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แจ้งความทุกครั้งที่พูดถึงการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ

ทั้งนี้การเข้าพบก็เพื่อขอประสบการณ์จากทุกคน และได้ขอสรุปตรงกันว่าตร.ใช้นิสัยตำรวจข่มขู่ ซึ่งเมื่อดูสำนวนคดีแล้วก็ไม่มีอะไรเลย แต่สร้างภาพจะแจ้งความจับกุม ดังนั้นสิ่งที่จะต้องทำต่อไป คือ ไม่ต้องพูดในสิ่งที่เขาขู่มา แต่จะให้กำลังใจรัฐบาลในการเดินหน้าปฏิรูปตำรวจ เพราะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พูดว่าการวิ่งเต้นโยกย้ายเป็นปัญหาหนึ่งของตร. ที่ทำให้ต้องปฏิรูป ดังนั้นเวลาที่เหลือ 10 เดือนจะต้องปฏิรูปให้เสร็จ โดยพวกตนจะเข้าไปช่วยดูเรื่องนี้ด้วย ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นจะจบอย่างไร ถ้าทุกฝ่ายพร้อมจะจบต้องจบด้วยการปฏิรูปตำรวจ

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา เคยระบุถึงการโยกย้ายว่ามีเมียลับๆ ของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไปเรียกรับเงิน 2 ล้านบาท 5 ล้านบาท 7 ล้านบาท วันรุ่งขึ้นก็มีการโยกย้ายพล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) ซึ่งตำรวจจะมาสอบถามตนว่ามีข้อมูลหรือไม่ ขอฝากบอกว่าเย็นนี้เจอกัน แต่คิดว่าต้องไปเอาข้อมูลจากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพราะตนไม่เคยระบุว่าการวิ่งเต้นเกิดขึ้นที่ไหนหรือใครจ่ายเงิน ส่วนที่ระบุว่าพล.ต.ต.ใหญ่กว่าพล.ต.อ.นั้น ก็เช่นกันให้ไปถามกันเองว่าเป็นใคร

“ขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีและนายวิษณุ ว่าก่อนปฏิรูปตำรวจเสร็จสิ้นภายในอีก 10 เดือนข้างหน้า ขอร้องให้ใช้มาตรา 44 ยุติการแต่งตั้งโยกย้ายไว้ก่อนจนกว่าจะปฏิรูปเสร็จสิ้น ดูสิว่ามันจะอดตายกันหรือไม่ ช่วงเดือนสิงหา ตุลา และเมษาปีหน้า ให้รอการปฏิรูปก่อน ยังไม่ต้องโยกย้าย คิดว่าคงไม่ลงแดงตายกันไปก่อน แต่จะมีคนสาธุ” นายวิทยา กล่าว

นายวิทยา กล่าวอีกว่า ตำรวจจะมาสอบตนในฐานะพยาน แต่หากจะออกหมายเรียกหรือหมายจับจะไม่ขอประกันตัว แต่จะให้นายกฯไปประกัน เพราะท่านขอบคุณตนที่ให้ข้อมูล ดังนั้นถ้ามีอะไรตนจะวิ่งหานายกฯ จึงขอให้ผบ.ตร.คิดให้ดีก็แล้วกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน