บิ๊กตู่ เผย 20 มหาเศรษฐี ไม่มีใครให้เงินรัฐบาลเลย มีแต่ข้อเสนอ-ดูแลคนในบริษัทเขาอย่างไร ยันไม่มีการตอบแทนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน อย่าฟังการบิดเบือนต่างๆ

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงว่า สำหรับการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ เรามีความจำเป็นต้องพ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน เคอร์ฟิวยังเหมือนเดิมเวลา 22.00-04.00 น. โดยยังคงข้อกำหนดต่างๆ ทั้งเรื่องการเคลื่อนย้าย แต่จะผ่อนคลายกิจกรรมต่างๆ โดยจะมีคณะกรรมการที่มาพิจารณา

“ตอนนี้ทราบดีถึงความลำบากและผู้มีรายได้น้อย ตอนแรกคิดว่ามี 3 ล้านคน แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาจำนวนมาก โดยต้องดูในเรื่องอื่นเสริมเข้ามาทั้งการออกพ.ร.ก.กู้เงินเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม รวมถึงการช่วยเหลือเกษตรกรด้วย”

สำหรับกิจกรรมทั้งหมดจะนำมาดู หลายมาตรการก็ดูไป โดยเรามีข้อกำหนดลงไป ซึ่งเข้าใจหลายคนกระทบเรื่องรายได้ จึงหามาตรการช่วยเหลือ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง 20 เจ้าสัวว่า ในเรื่องการขอรับฟังภาคอกชน นักธุรกิจ 20 ราย วันนี้ทยอยส่งมาแล้ว ซึ่งไม่มีใครให้เงินรัฐบาลเลย มีแต่ดูแลคนในบริษัทเขาอย่างไร ช่วยในกลุ่มงานของเขาเอง และมีการเสนอแนะเรื่องเศรษฐกิจต่างๆ โดยเห็นตรงกันเรื่องการบริหารจัดการน้ำให้ทั่วถึง ให้ประชาชนมีแหล่งน้ำ การขุดแหล่งน้ำ เขาสัญญาว่าจะดูแลประชาชนมากขึ้น ลดเหลื่อมล้ำ และร่วมมือรัฐบาลต่อไปในอนาคต ที่ผ่านมาเขาทำมาพอสมควร แน่นอนว่ารัฐบาลดูแลทุกคนไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อาศัยภาคส่วนต่างๆร่วมมือกันด้วย

“วันนี้ไม่ควรมีข้าง ควรมีข้างเดียวคือข้างดูแลคนไทยให้ดีที่สุด ให้สมกับความเป็นคนไทย มีจิตสำนึก สิ่งที่เขาเสนอและตรงกับรัฐบาลคือโลกหลังจากนี้จะเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด เรื่องการดำรงชีวิต สุขภาพ เราจำเป็นต้องสานต่อตามยุทธศาสตร์ที่มีอยู่เดิม เพื่อให้ประเทศพัฒนาเต็มรูปแบบ อาศัยภาคเอกชนธุรกิจมาช่วยกัน ไม่มีใครทำได้คนเดียว รัฐบาลออกมาตรการออกมาหากไม่เห็นชอบไม่ร่วมมือกันขอบคุณทั้ง 20 คนที่เสนอข้อคิดเห็นเป็นประโยชน์ ไม่มีใครมาร้องขอผลประโยชน์จากรัฐบาล ไม่มีใครให้เงินรัฐบาลและผมไปรับเงินไม่ได้ ไม่มีการตอบแทนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน อย่าฟังการบิดเบือนต่างๆ” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องเฟกนิวส์ เน้นย้ำว่าให้จัดการใช้กฎหมายดูแล ไม่ได้ละเมิด ถ้าละเมิดใครก็ต้องถูกกฎหมายดำเนินการ ซึ่งกฎหมายปกติเป็นเรื่องของพ.ร.บ.คอมพ์ กับกฎหมายหมิ่นประมาท ตอนนี้มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แรงกว่ากฎหมายปกติ ขอให้ระวังด้วย ที่ผ่านมาจับกุมได้หลายคน จะบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ต้องไปสู้กันในศาล

“เราได้รับการชื่นชมจากหลายประเทศ ไม่มีการปิดบังอะไรทั้งสิ้น เพิ่มการตรวจกลุ่มเสี่ยงใหม่มากขึ้น ถ้าเราติติงกันมากๆ ก็ไม่เป็นประโยชน์ ประเทศเดินหน้าไม่ได้ จึงขอความร่วมมือและความเข้าใจ อย่ามองในทางที่ผิดไปทั้งหมด”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน