“ช่อ” รับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาท หลังเอ๋ ปารีณาแจ้งความไว้ปีก่อน บอก ไม่กังวล ชี้ ตอนนี้ประเทศมีเรื่องอะไรให้น่าสนใจ กว่าประเด็นเล็กๆน้อยๆนี้

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. ที่สน.ลุมพินี น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เข้าพบ พ.ต.ท.อนันต์ วงศ์คำ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ลุมพินี และ ร.ต.ท.ทัยวัฒน์ วิวัฒน์เกียรติ รอง สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

หลังน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แจ้งความเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2562 ว่า ขณะนั้นน.ส.พรรณิการ์ เป็นโฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้กล่าวหาน.ส.ปารีณา ว่าทำให้สังคมเกิดความแตกแยก

น.ส.พรรณิการ์ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งได้รับหมายเรียกเมื่อ 2-3 วันก่อน ให้มารับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งปกติตำรวจจะทำงานช้าบ้างเร็วบ้าง หากคดีไหนอยู่ในความสนใจประชาชนก็จะเร่งรัดดำเนินการ

แต่คดีนี้ผ่านมา 1 ปีเพิ่งมีหมายเรียก ช้าไปหรือไม่ หรือมีเหตุอะไรทำให้ต้องออกหมายเรียกในช่วงนี้หรือไม่ ทั้งที่ตอนนี้ประเทศไทยมีเหตุการณ์อะไรที่น่าสนใจมากกว่าคดีเล็กน้อยแบบนี้ ทั้งเรื่องโควิด-19 และเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท

น.ส.พรรณิการ์ ยังกล่าวว่า ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ คดีนี้ตนไม่มีความกังวลใดๆ เพราะในส่วนที่เหลือคือเป็นการสืบพยานในแต่ล่ะฝ่าย ส่วนเรื่องที่ตนจะฝากอะไรถึงน.ส.ปารีณา ก็คงไม่มีอะไรจะฝากถึง แต่ตนมีข้อคิดเห็นเล็กน้อยกับวิวาทะที่เกิดขึ้นว่า เรื่องนี้น่าจะเกิดประโยชน์ต่อสังคม

ถ้าไม่ได้มองเห็นเป็นแค่ความขัดแย้งในเรื่องบนลงโทษในคดีข่มขืน ในสังคมไทยเองก็ตระหนักว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา ถึงเวลาแล้วที่ต้องมาถกเถียงกันว่า การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ข่มขืนอีกควรทำอย่างไร เพราะโทษที่มีอยู่ไม่ได้เบาแต่ก็ยังมีเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้นอยู่

น.ส.พรรณิการ์ ยังกล่าวต่อไปว่า วานนี้(10มิ.ย.) ที่รัฐสภามีการตอบกระทู้สดเรื่องนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ลี้ภัยการเมืองไปอยู่ประเทศกัมพูชาแล้วถูกอุ้มตัวหายไป ทำให้ตนผิดหวังกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ

แทนที่จะทำให้ประชาชนมั่นใจกระทรวงการต่างประเทศ แต่กลับไม่แสดงความกระตือรือร้นการติดตามหาตัวนายวันเฉลิม ทั้งที่เป็นภารกิจกระทรวงการต่างประเทศที่จะดูแลคนไทยโดยไม่แบ่งว่าเป็นคนส่วนมากหรือส่วนน้อย แต่นายดอน กลับแถลงต่อสภา โดยยกบทสนทนาลอยๆ ว่าได้ชี้แจงกับทูตต่างประเทศว่า ไม่มีชาติใดติดใจกับกฎหมายอาญามาตรา 112

ตนไม่ทราบว่านายดอน ไปพูดกับใคร หรือมีพยานให้ตามสืบค้นได้ แต่ตนยืนยันว่าช่วงปี 2559-2560 เคยมีทูตสหรัฐอเมริกาประจำไทย และองค์กรสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุถึงความกังวลการละเมิดสิทธิของประชาชนทางการเมือง และให้ทางการทบทวนแก้ไข ม.112 เพราะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือการเมือง


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน