“สุทิน” ชี้ ม็อบชนม็อบ เป็นโมเดลที่เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต สุดท้ายก็จบด้วยการยึดอำนาจ รัฐประหาร ลั่นคนรู้ทันหมดแล้ว ว่ารัฐบาลไม่จริงใจ

เมื่อวันที่ 30 ก.ค.เวลา 09.00 น.ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังเแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ว่า ฝ่ายค้านจะถามกระทู้เรื่องมาตรการดูแลให้ความปลอดภัยและหลักประกันต่อผู้ชุมนุม

หลักใหญ่จะถามรัฐบาลว่า การที่มีผู้ชุมนุมซึ่งมีท่าทีว่าจะขยายตัวขึ้น รัฐได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมอย่างไร เพราะวันนี้ ทราบว่าจะมีผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่งออกมาในทำนองสนับสนุนรัฐบาล และต่อต้านผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่ง ตนต้องฝากนายกฯ และฝากทุกๆ คนว่าวันนี้คนไทยทุกคนต้องคิดให้มาก ลักษณะอย่างนี้เป็นโมเดลที่เคยเกิดมาแล้วในอดีต เมื่อมีผู้ชุมนุมฝ่ายหนึ่งแล้ว รัฐบาลก็มักจะเอาผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่งมา

“ถือว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาม็อบอีกวิธีของรัฐบาล ซึ่งนิยมใช้ในอดีต แล้วสุดท้ายก็จบลงโดยไม่ดีสักครั้ง จบลงโดยความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นการปะทะกันจนต้องเสียเลือดเนื้อ ท้ายที่สุดก็จบด้วยการยึดอำนาจ ล่าสุดก็เหมือนกัน มีการยึดอำนาจเมื่อปี 49 หรือปี 57 ลักษณะของม็อบชนม็อบ

คำว่าม็อบชนม็อบก็ไม่ได้เป็นไปโดยธรรมชาติ ถ้าเป็นไปโดยธรรมชาติก็พอที่จะรับได้ แต่ถ้ามีการจัดตั้งขึ้นมาก็ต้องระวังให้มาก เพราะประเทศไทยมีบทเรียนเรื่องนี้แบบเจ็บปวดมากๆ ถ้ายังทำแบบนี้กันอีก แล้วรัฐบาลยังไม่มีมาตรการที่จะต้องแก้ไขเรื่องนี้ เรามองเห็นอะไรอยู่ข้างหน้าที่น่ากลัวมาก”นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามว่ามองเป็นการปลุกม็อบขึ้นมาชนม็อบ นายสุทิน กล่าวว่า เท่าที่ดูเบื้องลึก ตรวจสอบแบบใจกว้างและให้ความเป็นธรรม ก็มีเรื่องผิดปกติอยู่ ทั้งแกนนำผู้ชุมนุมบางฝ่าย และการก่อเกิดไม่ได้เป็นไปโดยธรรมชาติ ดังนั้นรัฐบาลต้องคิดว่าเรื่องอย่างนี้เคยเกิด

และทุกคนเคยเรียนรู้ จึงทำให้ใครก็รู้ทัน แล้วจะมองว่ารัฐบาลนี้ไม่จริงใจ เมื่อคนมองว่าไม่จริงใจต่อกันแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะพูดกันไม่รู้เรื่อง สุดท้ายก็จะขยายความขัดแย้งและจบแบบทุกคนเสียหายหมด อย่างไรก็ตามการชุมนุมแต่ละครั้งก็ไม่เหมือนกัน หากคราวใดไม่เป็นธรรมชาติเราดูออก และเชื่อว่ารัฐบาลรู้แก่ใจดี


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน