เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการกรณีที่พล.ต.จรูญ อำภา นายทหารสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย รวมถึงทหารยศจ่าสังกัดกรมสารวัตรทหารกองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 4 นาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ เนื่องจากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอุ้มเรียกค่าไถ่นายสุรชัย แซ่ย่าง ประธานบริษัทคันต้า กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด และนายทรงศักดิ์ วิโรจน์ถาวรกิจ ผู้จัดการบริษัทฯ เป็นเงิน 20 ล้านบาทว่า

กรณีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล เพราะมีพฤติกรรมไปอุ้มรีดไถ่ชาวบ้าน ตนมองว่าเป็นความผิดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับกองทัพ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ที่ผ่านมาตนเน้นย้ำไม่ให้ทหารเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องความผิด ซึ่งเรื่องดังกล่าวผู้กระทำความผิดไปรู้จักกันเป็นการส่วนตัวและรวมตัวเพื่อก่อเหตุ สำหรับเรื่องนี้เป็นความผิดทางคดีอาญาก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายของบ้านเมือง ส่วนความผิดทางวินัยก็ต้องให้ออกจากราชการอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ในช่วงนี้ดูเหมือนว่ามีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีอาญาหลายคดี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้เยอะอะไร เพราะมีเพียง 2-3 คดีเท่านั้น และเรื่องนี้ก็ไม่ต้องโยงถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะเป็นพฤติกรรมของบุคคล ไม่ใช่เป็นพฤติกรรมของกลุ่มก้อนใหญ่ ไม่ใช่ส่วนรวม แต่เป็นเรื่องของส่วนตัว ที่ผ่านมาทางกองทัพก็ไม่ได้ปกป้อง และช่วยอำนวยความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ในเรื่องของคดีความ ไม่ว่าจะเป็นทหารชั้นนายพลหรือทหารยศใดก็ต้องถูกดำเนินการ ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน