ไผ่ ดาวดิน : เมื่อหมายเรียกจำกัดสิทธิเสรีภาพความเป็นคน ผมจึงเผาทิ้ง
จากกรณี วันที่ 24 ส.ค. กลุ่มแนวร่วมประชาชนอีสานเพื่อประชาธิปไตย (นปป.) ตั้งเวทีปราศรัยในชื่อ “ไทบ้านสิบ่ทน คนอีสานสิปลดแอก” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น โดยแกนนำกลุ่มได้ขึ้นบนเวทีเพื่ออ่านแถลงการณ์ของกลุ่ม ใน 3 ข้อหลัก คือหยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อยุบสภาและเลือกตั้งใหม่
ทั้งนี้ภายในงาน นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ได้แสดงหมายเรียกของ สภ.เมืองขอนแก่น ที่ให้เข้าพบพนักงานสอบสวน วันที่ 28 ส.ค. แต่เจ้าตัวได้จุดไฟเผาหมายเรียก
ไผ่ ดาวดิน กล่าวว่า ทางกลุ่มถูกตำรวจออกหมายเรียกแล้วทั้งหมด 2 คน เกี่ยวกับความผิด ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ยิ่งทำให้ทางกลุ่มมีความโกรธมากกว่าเดิม
เรื่องนี้เป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาควบคุมคนมากกว่าควบคุมโรค และมองว่าหมายเรียกของทางตำรวจ เปรียบเสมือนน้ำหมึกที่พิมพ์ลงในกระดาษเพื่อจำกัดสิทธิและเสรีภาพความเป็นคน ที่เห็นต่างทางการเมือง
“ผมออกมาเรียกร้องขับไล่รัฐบาล เพื่อต้องการจะเห็นประเทศนี้พัฒนาดีขึ้นเท่านั้น และข้อหาในลักษณะดังกล่าว ไม่ได้ต้องการความถูกต้องทางกระบวนการยุติธรรม แต่ออกมาเพื่อกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามเท่านั่น ผมจึงตัดสินใจที่เผามันทิ้ง”
ไผ่ ดาวดิน กล่าวต่อว่า ประชาชนต้องมีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน ตรวจสอบความถูกต้อง ความโปร่งใสได้อย่างเปิดเผย โดยในวันที่ 27 ส.ค. กลุ่มผู้ชุมนุม จะบุก กทม.ปักหลักชุมนุมที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ และวันที่ 28 ส.ค. จะเคลื่อนทัพไปที่ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อไปรายตัวตามหมายเรียก และเรียกร้องใน 3 ข้อหลัก และแสดงพลังในการทวงคืนประชาธิปไตยกลับสู่ประชาชนต่อไป
ขณะที่หมายเรียกของ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ให้ทนายประสานกับตำรวจแล้วว่าขอเลื่อนวันเข้ารายตัวเป็นวันที่ 10 ก.ย. โดยจะมีการนัดรวมกลุ่มไปแสดงพลังที่ สภ.เมืองขอนแก่น ด้วย