อลงกรณ์ พลบุตร แนะ นิพนธ์ บุญญามณี เสียสละ แสดงสปิริตลาออกรมต.-ตำแหน่งทางการเมืองในพรรค หวังรักษามาตรฐานประชาธิปัตย์

วันที่ 6 ต.ค. นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) มีมติชี้มูลความผิดนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และอดีตนายกอบจ.สงขลา กรณีไม่อนุมัติเงินจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน วงเงินกว่า 50 ล้านบาทว่า

ในฐานะที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ควรลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีและตำแหน่งทางการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่านายนิพนธ์จะมีข้อโต้แย้งคำวินิจฉัยของป.ป.ช. แต่ก็ไม่เป็นเหตุที่จะไม่ปฏิบัติตามหลักปฏิบัติของพรรคในการแสดงสปิริตทางการเมือง เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์

“บุคลากรของพรรคในอดีตได้ลาออก เพื่อรักษามาตรฐานทางการเมืองและปฐมอุดมการณ์ของพรรค จนได้รับการยกย่องในสปิริตทางการเมือง เช่น นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตรมว.สาธารณสุข นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีตรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร การรักษาหลักการของพรรคไม่อาจมีข้อยกเว้น โดยเฉพาะคดีการทุจริตและประพฤติมิชอบ ไม่ว่าในยุคที่นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นหัวหน้าพรรค รวมทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ประวัติศาสตร์อันดีงามของพรรคในด้านนี้ต้องไม่หายกลายเป็นอดีตเพราะคนใดคนหนึ่งหรือยุคใดยุคหนึ่ง”

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุด อาจไม่ใช่พรรคใหญ่เหมือนในอดีต แต่เราสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนในอดีตคือ การธำรงรักษามาตรฐานทางการเมืองและอุดมการณ์ทางการเมืองให้เป็นแบบอย่างของความเป็นสถาบันทางการเมืองที่ดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นผู้นำในการปฏิรูปการเมืองด้วยการเริ่มต้นที่พรรคของเรา วันหนึ่งความศรัทธาของประชาชนจะกลับมาด้วยการทำความดีของพรรคและทุกคนต้องช่วยกันทำให้เป็นจริง

“ผมเชื่อว่าความศรัทธาเหนือกว่าเงินตราและอำนาจ ผมมีความสนิทสนมเป็นเพื่อนและทำงานร่วมกับนายนิพนธ์มาเกือบ 30 ปีและเห็นว่านายนิพนธ์ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความขยันขันแข็งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในระหว่างดำรงตำแหน่งเป็นรมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรคและอดีตนายก.อบจ.สงขลา แต่ความเป็นเพื่อนย่อมไม่อาจเหนือหลักการของพรรค แม้จะผูกพันกันเพียงใดก็ตาม เมื่อป.ป.ช.ชี้ว่ากระทำผิด ก็ต้องแสดงสปิริตลาออกตามมาตรฐานของพรรค และไม่เหมาะสมที่จะใช้พรรคเป็นพื้นที่ต่อสู้คดีจนทำให้พรรคเสียหลักที่ยึดไว้ โดยส่วนตัวพร้อมจะช่วยเหลือคดีนายนิพนธ์ ในฐานะเพื่อนคนหนึ่งและในฐานะอดีตประธานตรวจสอบการทุจริตของพรรค เพราะมีหลายประเด็นที่น่าเคลือบแคลงของการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวตามที่นายนิพนธ์ชี้แจงแสดงหลักฐาน ผมมั่นใจว่าการเสียสละของนายนิพนธ์ในการแสดงสปิริตลาออกจะเป็นผลดีต่ออนาคตทางการเมืองในวันข้างหน้า หากว่าไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหาเมื่อคดีทุจริตและประพฤติมิชอบถึงที่สุด”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน