โฆษกรัฐบาล ยัน จำเป็นประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คุมพื้นที่กทม. สกัดมวลชนเผชิญหน้า-ไม่ให้กระทบเศรษฐกิจ เผย สาเหตุนัดถกครม.นัดพิเศษ

เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 15 ต.ค.2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า การที่รัฐบาลได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพราะมีความจำเป็นเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยให้แก่ประเทศ ป้องกันการเกิดความรุนแรงในอนาคต ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มที่เห็นต่างและพร้อมที่จะให้มีเวทีรับฟังความคิดเห็น

เกาะติดสถานการณ์ม็อบ กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ประกอบการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และที่สำคัญคือการขับเคลื่อนมาตรการทางเศรษฐกิจของรัฐบาล จึงอยากให้ผู้ชุมนุมเคารพสิทธิและเสรีภาพของส่วนรวมและระวังไม่ให้กระทำผิดข้อกำหนดทั้ง 4 ข้อตามประกาศ โดยเฉพาะการโพสต์ข้อความหรือแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียในทางที่ไม่ถูกต้อง

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิด จะเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กรอ.ฉ.) มีหลายหน่วยงานเป็นคณะกรรมการดูแลความสงบเรียบร้อย

โฆษกรัฐบาล ยัน จำเป็นประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คุมพื้นที่กทม. สกัดมวลชนเผชิญหน้า

โฆษกรัฐบาล ยัน จำเป็นประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คุมพื้นที่กทม. สกัดมวลชนเผชิญหน้า

“เราจะเห็นชัดจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่มีผลกระทบกับชาวไทยเป็นจำนวนมาก มีการกระทบกับขบวนเสด็จฯ และใช้วาจาปลุกก้าวล่วงสถาบัน จึงจำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เพื่อควบคุมความสงบเรียบร้อย ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งมีหลายส่วนที่แสดงท่าทีที่ไม่ต้องการให้คนที่มาชุมนุมก้าวล่วงและพาดพิงสถาบัน รัฐบาลจึงขอความร่วมมือจากประชาชนให้ระมัดระวัง เพราะสิ่งที่จะต้องดำเนินการจากนี้คือให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จึงอยากให้พูดคุยด้วยความเรียบร้อยและอยู่ในกรอบของกฎหมาย” นายอนุชา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามการเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ นายอนุชา กล่าวว่า เป็นการประชุมคณะเล็กเพื่อรับทราบและเห็นชอบประกาศคำสั่งต่าง ๆ ที่ออกมาตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเวลา 10.00 น. ที่ห้องเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า

ถามต่อว่า นายกรัฐมนตรีมีความกังวลหรือสั่งการในเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า นายกฯ ได้พูดถึงเรื่องที่อยากให้ทุกคนได้ช่วยกันเดินหน้าประเทศไทย และมาตรการต่าง ๆ ทั้งยังเน้นย้ำเรื่อง รวมไทยสร้างชาติ คือขอให้รวมไทย ร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียวกัน และร่วมกันที่จะฟันฝ่าอุปสรรคทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และโควิด-19

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ส่วนคนอื่นที่มีความเห็นต่างรัฐบาลพร้อมที่จะเปิดเวทีรับฟัง เพราะประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้จะต้องอยู่ในหลักนิติธรรม เพราะฉะนั้น เสียงส่วนใหญ่ต้องฟังเสียงส่วนน้อย และเสียงส่วนน้อยก็ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน