โจชัว หว่อง ทวีตถึงชาวโลก บอกเล่ารายละเอียดทางการเมืองในประเทศไทย พร้อมขอให้ชาวโลก ช่วยจับตารัฐไทย และเป็นกระบอกเสียงให้กับชาวไทยที่เชื่อมั่นในประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ช่วง 17.00 นาฬิกา (ตามเวลาประเทศไทย) โจชัว หว่อง นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยชาวฮ่องกง ได้ทวีตข้อความผ่านทาง ทวิตเตอร์ Joshua Wong (@joshuawongcf) โดยกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำของรัฐที่คุกคามต่อผู้เห็นต่างต่อรัฐบาล พร้อมภาพและคลิปวิดิโอของการชุมนุมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก โดยขอให้ชาวโลกช่วยจับตาและเป็นกระบอกเสียงให้กับชาวไทยที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

“ชาวโลกโปรดยืนหยัดเคียงข้างคนไทย
เพื่อยุติการชุมนุมของกลุ่มชาวไทยที่ใฝ่ประชาธิปไตย การใช้พรก.ฉุกเฉิน ได้ถูกประกาศ ซึ่งรวมถึงการที่รัฐบาลห้ามการชุมนุม บังคับปิดกั้นสื่อ ระดมเคลื่อนกำลังพล เพื่อเข้าปราบปรามผู้เห็นต่าง”

“มีนักกิจกรรมอย่างต่ำ 27 คน ถูกจับกุม ซึ่งรวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียง อานนท์ นำภา ประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และ ณัฐชนน ไพโรจน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดักฟังการสื่อสารของพลเมือง ห้ามคนไทยเดินทางออกนอกประเทศ และ เนรเทศชาวต่างชาติ”

“ภายใต้พรก.ฉุกเฉินนี้ มีการบังคับปิดกั้นสื่อ ห้ามให้สื่อทั่วประเทศนำเสนอข่าวหรือข้อมูล (รวมถึงออนไลน์) ที่รัฐบาลถือว่าก่อให้เกิดความกลัวในหมู่สาธารณชน สื่อนานาชาติเช่น บีบีซี ซีเอ็นเอ็น เป็นต้น ซึ่งทำข่าวเกี่ยวกับม็อบ 14 ตุลาคม 2563 ในประเทศไทย ถูกปิดกั้นการเข้าถึง”

“เมื่อเสียงของพวกเขาถูกทำให้บอดใบ้ จึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนสำหรับพวกเรา ที่จะออกมาส่งเสียงให้พวกเขาต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เสรีภาพในการพูด ถูกขโมยไปจากประเทศแห่งความสร้างสรรค์นี้ ชาวฮ่องกงและชาวโลก ต้องยืนหยัดเคียงข้างประเทศไทย เผยแพร่คำพูดของพวกเขา เสรีภาพเพื่อชาวไทย”

“ทั้งที่มีการปราบปราม แต่เพื่อนพ้องชาวไทยผู้กล้าหาญของเราต่างขัดขืนต่อกฎหมายใหม่ฉบับนี้ และออกมาประท้วงบนท้องถนนอย่างท่วมท้นเพื่อต่อต้านการปกครองของทรราช ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของชาวไทย เราไม่ควรปล่อยให้พวกเขาสู้เพียงลำพัง ประชาชนจงเจริญ”

โจชัว หว่อง เป็นนักกิจกรรมประชาธิปไตยและนักการเมืองชาวฮ่องกง เขามีบทบาทสำคัญในขบวนการปฏิวัติร่ม (Umbrella Movement) นิตยสาร ไทม์ (Time) นับเขาเป็นหนึ่งในวัยรุ่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งปี พ.ศ. 2557 และในปี พ.ศ. 2558 นิตยสาร ฟอร์จูน (Fortune) เรียกขานเขาว่า เป็นหนึ่งใน “ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก” นอกจากนี้เขายังได้รับเสนอชื่อให้ได้รางวัลโนเบลสันติภาพใน พ.ศ. 2560 อีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน