กมธ.ตำรวจเรียก ตร.แจงปมสลายชุมนุม จนท.แจงยึดตามหลักสากล อ้างฉีดน้ำสี – ใช้แก๊สน้ำตาเพราะม็อบเริ่มรุนแรง ส่อคุมไม่ได้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 พ.ย.63 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาฯ โดยมีนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกมธ. เป็นประธานในการประชุม โดยเชิญ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย รองผบช.น. และพล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 ร่วมชี้แจง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

จากนั้นเวลา 13.40 น. นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการฯ แถลงว่า ที่ประชุมพิจารณาและสามารถสรุปสาระสำคัญได้ว่าการดำเนินการของตำรวจเป็นการปฏิบัติภายใต้กฎหมายที่บัญญัติ โดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์ มีการบังคับใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักเป็นไปตามสากล การดำเนินการในแต่ละขั้นตอนมีการประกาศแจ้งเตือนผู้ชุมนุมให้ทราบทุกครั้ง เริ่มจากการแจ้งเตือนว่าการชุมนุมผิดกฎหมาย และขอความร่วมมือให้เลิกการชุมนุม หากไม่ได้รับความร่วมมือและผู้ชุมนุมมีพฤติการณ์ที่จะใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้น ตำรวจมีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่จัดเตรียมมาในการควบคุมผู้ชุมนุม ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์ในการปฎิบัติแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน

ที่ประชุมกมธ.มีข้อเสนอเกี่ยวกับการดำเนินการควบคุมการชุมนุมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) คือ 1.กรณีที่ผู้ชุมนุมและบุคคลที่มีความเห็นต่างกับผู้ชุมนุมเข้าไปอยู่กลุ่มชุมนุม ตำรวจควรมีแนวทางในการระงับเหตุเพื่อไม่ให้เหตุการณ์มีการใช้ความรุนแรง 2.ตำรวจควรมีการสาธิต หรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับขั้นตอนในการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ประชาชนได้รับทราบ และ 3.ตำรวจควรใช้วิธีการที่ละมุนละม่อมต่อผู้ชุมนุม เพื่อไม่ให้เหตุการณ์มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

ด้านนายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองประธานกรรมาธิการตำรวจคนที่ 2 กล่าวว่า กมธ.ได้รับคำชี้แจงจากตำรวจถึงขั้นตอนต่างๆ ในการควบคุมการชุมนุมว่าเป็นไปตามขั้นตอนหลักสากล โดยเฉพาะสารเคมีที่ใช้ผสมน้ำฉีดใส่ผู้ชุมนุมคือ สารเมทิลไวโอเลตทูบี ไม่มีอันตราย เพราะใช้อย่างเจือจางเพียงแค่ 3 % เพื่อให้ระบุตัวตนว่าเป็นผู้มาร่วมการชุมนุม แต่เมื่อไม่สามารถหยุดผู้ชุมนุมได้ จึงเปลี่ยนมาใช้เป็นน้ำผสมแก๊สน้ำตาฉีดใส่ผู้ชุมนุม ซึ่งใช้ในปริมาณเจือจาง 3 % เช่นกัน เป็นไปตามมาตรการควบคุมการชุมนุมของยูเอ็น

กมธ.ให้ข้อสังเกตตำรวจไปว่า ถึงแม้จะสารเคมีที่ใช้จะเป็นปริมาณเจือจาง แต่อยากให้คำนึงถึงผลกระทบจากการใช้สารเคมี เพราะถ้าเกิดเข้าปากอาจสร้างผลกระทบได้ ส่วนสาเหตุที่ต้องฉีดน้ำใช้สลายการชุมนุมนั้น ได้รับคำชี้แจงจากตำรวจว่าเหตุการณ์ที่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 16 ต.ค. เนื่องจากเริ่มมีความรุนแรงที่ส่อไปในทางควบคุมไม่ได้ เริ่มปะทะระหว่างการ์ดกับเจ้าหน้าที่ จึงเริ่มมีการใช้น้ำฉีดสกัด แต่เมื่อไม่ได้ผลจึงเพิ่มระดับมากขึ้น

ส่วนเหตุการณ์ที่สนามหลวง เพราะผู้ชุมนุมเริ่มตัดรั้วลวดหนาม ขยับการชุมนุมเข้าไปใกล้พื้นที่ควบคุม ถ้าปล่อยให้เข้าไปอาจจะควบคุมไม่ได้ จึงฉีดน้ำสกัด เป็นการฉีดในวิถีโค้ง เมื่อฉีดไปแล้ว ผู้ชุมนุมก็ไม่ได้รุกคืบเข้าไป ยืนยันว่าถ้าไม่มีการลุกลามข้อกฎหมายชัดเจน ก็ไม่มีการฉีดน้ำสลายชุมนุม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน