เพื่อไทย สงสัย ต้องใช้งบอีกเยอะสร้างบ้านให้ทหารทำคุณงามความดีอยู่หลังเกษียณ!

เพื่อไทยยอมรับคำตัดสินคดี “บิ๊กตู่” ฟาก “ประเสริฐ” ขอดูคำวินิจฉัยก่อน ยอมรับซักฟอกต่อไม่ได้ ชี้ระเบียบพักบ้านหลวงต้องเป็นมาตรฐานเดียวทั้งประเทศ ย้อนถามอนาคตต้องหางบมหาศาลสร้างบ้านรองรับคนทำคุณงามความดีอีกเท่าไร

เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะผู้ร้องได้ทำเต็มที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนถึงที่สุดแล้ว ส่วนข้อเท็จจริงเรื่องความปลอดภัยซึ่งศาลวินิจฉัยว่านายกฯ จะต้องได้รับการดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ เพราะเป็นผู้บริหารประเทศ ซึ่งเรื่องนี้นายกฯ ท่านก่อนๆ ก็อยู่บ้านพักตนเองและได้รับการดูแลจากรัฐเช่นเดียวกัน และไม่ได้มีมาตรการดูแลเป็นพิเศษแต่อย่างใด โดยหลังจากนี้พรรคจะกลับไปหารือกันอีกครั้งหนึ่ง และต้องดูรายละเอียดของคำวินิจฉัย เพราะคำวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานให้องค์กรอื่นที่เป็นหน่วยงานรัฐต้องปฏิบัติตาม จึงเป็นข้อสังเกตที่น่าคิดว่าในอนาคตจะทำแบบนี้ได้หรือไม่ เพราะเมื่อศาลวินิจฉัยว่านายกฯ ไม่ได้ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและไม่ได้กระทำการขัดจริยธรรม เราก็ยื่นร้องต่อไม่ได้

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า บุคคลที่เป็นนายกฯ ต้องมีวุฒิภาวะ มีมาตรฐานทางจริยธรรมสูงกว่าคนอื่น วันนี้สังคมกังขาถึงการใช้น้ำไฟฟรี เพราะนายกฯ เคยเป็นอดีต ผบ.ทบ. เมื่อมาดำรงตำแหน่งนายกฯถือเป็นข้าราชการการเมือง ซึ่งต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184(3) ทั้งนี้ หากในอนาคตหน่วยงานอื่นนอกจากกองทัพบกออกระเบียบภายในกันเอง ว่าข้าราชการที่เกษียณแล้วสามารถพักอยู่บ้านหลวงได้ โดยกระทำคุณงามความดี เราคงต้องใช้งบประมาณอีกเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างบ้านรองรับข้าราชการเกษียณที่ทำคุณงามความดีหรือไม่ และในอนาคตจะนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการรัฐสภา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เพราะเรื่องระเบียบการใช้บ้านพักของหน่วยงานราชการ ควรเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ซึ่งปัญหานี้เราห่วงข้าราชการชั้นผู้น้อยซึ่งไม่มีบ้านอยู่ แต่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กลับมีบ้านหลายหลัง สิ่งเหล่านี้เป็นช่องว่าง เป็นรอยต่อ เป็นความเหลื่อมล้ำ ซึ่งในอนาคตต้องมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ต่อไป

“ยืนยันว่าเราพยายามรักษาผลประโยชน์ประชาชนเต็มที่แล้ว เพราะเรามองเห็นว่าการที่คนที่เกษียณไปแล้ว สามารถใช้ทรัพย์สินของรัฐได้ ต้องมีกฎหมายรองรับ แต่เมื่อคำวินิจฉัยออกมาในลักษณะนี้ คงต้องผลักดันเรื่องความเหลื่อมล้ำความเสมอภาคต่อไป” นายประเสริฐ กล่าว

เมื่อถามว่าจะนำเรื่องนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อได้หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ได้ เพราะไม่มีประเด็นอื่นแล้ว ถือว่าคำวินิจฉัยของรัฐธรรมนูญเป็นอันเด็ดขาดแล้ว ซึ่งคิดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจน่าจะเป็นเรื่องอื่น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน