วิษณุ เผยภายใน 1-2 วัน เห็นโฉมหน้าคณะกรรมการแก้ปัญหา บ่อนพนัน-แรงงานผิดกฎหมาย แย้มไม่ใช่คนสีกากี แต่เป็นคนประวัติดี มีความรู้ความสามารถ
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 ม.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้ารายชื่อคณะกรรมการแก้ปัญหาบ่อนการพนันและแรงงานผิดกฎหมาย ตามที่นายกรัฐมนตรี ระบุภายใน 1-2 วัน รายชื่อจะชัดเจน ซึ่งบางคนอาจไม่สะดวกที่จะรับตำแหน่งเนื่องจากต้องลงพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะบางคนเป็นผู้สูงอายุ
- บิ๊กตู่ ตั้งคกก.สอบบ่อน-แรงงานเถื่อน เปิดช่องร้องตรงนายกฯ ยันเป็นความลับ
- ‘บิ๊กตู่’ ชี้บ่อนพนัน-แรงงานเถื่อน มีนานแล้ว อย่าโทษกันไปมา ลั่นไม่เคยเอื้อประโยชน์ใคร
- “บิ๊กตู่” ตัดพ้อ ปัญหาบ่อน 100 นายกฯก็แก้ไม่ได้ เก่งกาจแค่ไหนก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ที่จะมานั่งเป็นประธานคณะกรรมการจะมีชื่อระดับบิ๊กเนมหรือไม่ ตอบได้เพียงว่าเป็นผู้มีประวัติการทำงานดี มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ในส่วนที่รับผิดชอบ ซึ่งประธานคณะกรรมการทั้งสองคณะ ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจ เพราะขั้นปฏิบัติ เจ้าพนักงานที่เป็นทหาร ตำรวจ เป็นผู้ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งตัวประธานไม่อยากให้เป็นข้าราชการทหารตำรวจ แต่เป็นอดีตข้าราชการได้ และที่สำคัญไม่อยากให้เป็นตำรวจเพราะอาจจะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องได้
“คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเป็นการแก้ไขเฉพาะหน้า เน้นเรื่องที่ได้รับร้องเรียนเรื่องปัจจุบันและหามาตรการป้องกันในอนาคต โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะไม่มีการตรวจสอบย้อนหลัง เพราะเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่แล้ว”
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการทั้งสองชุด ไม่ได้มีหน้าที่จับกุม เพราะคนจับคือเจ้าพนักงาน แต่จะทำหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์และเบาะแสต่างๆที่มีบ่อนและแรงงานผิดกฎหมาย และจี้กำชับไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ตำรวจพื้นที่ลงไปดำเนินการ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้คือเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
หากพบว่าเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ของตัวเอง ก็สามารถไปแจ้งดำเนินคดีได้ที่กองปราบปรามหรือ ตำรวจสอบสวนกลาง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) โดยให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)และคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ตรวจสอบ เป็นต้น
“ที่สำคัญนายกรัฐมนตรีได้เปิดสายด่วน 1111 ให้ประชาชนแจ้งเบาะแส ซึ่งกรรมการทั้งสองชุดจะขยายผลไปตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆและอาจจะเปิดรับข้อมูลจากต่างจังหวัดด้วย ซึ่งกรรมการก็จะมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาทำงานอีกต่อนึง” นายวิษณุ กล่าว