‘ร้านโชห่วย’โวย

มินิมาร์ตธงฟ้าอื้อ

หน่อยโต้โซเชี่ยล

เร่งติดตั้งเครื่องรูดบัตรคนจนให้ได้ตามเป้าหมาย คาดเดือนพ.ย.นี้กระจายได้ทั่วถึง ย้ำรูดได้เฉพาะร้านธงฟ้า ยังไม่ขยายไปร้านชุมชนอื่นๆ พ่อค้าร้านชำราชบุรีโวยชื่อหล่น แต่ดันไปให้มินิมาร์ตเจ้าเดียวถึงเกือบ 40 แห่ง สนช.งัดข้อกรธ.ตัดดาบสตง.ออกทั้งหมด ไม่ให้อำนาจตรวจสอบป.ป.ช. จ่อตั้งกมธ.ร่วม 3 ฝ่ายหาข้อสรุป คุณหญิงหน่อยน้ำตาคลอขอโทษติดป้ายชื่อขึ้นรถเชิญชวนปลูกดอกดาวเรืองจนถูกกระแสออนไลน์โจมตี ยันไม่มีเจตนาทางการเมือง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ปลื้ม มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก นายใหญ่ เฟซบุ๊กมาไทยพบบิ๊กตู่

ตั้งกมธ.ร่วม 3 ฝ่ายถกกม.สตง.

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายพรเพชร วิชิต ชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ในการประชุม สนช.ในวันที่ 19 ต.ค. นี้ จะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีความโยงใยกับร่างพ.ร.ป.ป.ป.ช. โดยร่างของ กรธ.ระบุว่า สตง.สามารถเข้าไปตรวจสอบเจ้าที่หน้าที่ของป.ป.ช.ได้ ซึ่งอ้างว่าที่ผ่านมามีช่องโหว่ตรงนี้อยู่ ในเมื่อเป็นเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.แล้วใครจะตรวจสอบ เพราะเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.เที่ยวไปตรวจคนอื่นเขาไปทั่ว แต่ไม่มีใครตรวจสอบป.ป.ช. เขาก็ตรวจกันเอง แต่ทาง กรธ.บอกว่าเขาจะให้ตรวจสอบหน่วยงานอื่นๆ ดังนั้น ก็ต้องตรวจสอบป.ป.ช.ด้วย

ส่วนป.ป.ช.ก็บอกว่าเขาไม่ควรถูกตรวจสอบ จึงต้องฟังความกันต่อไป และทางกรธ.ก็ยืนยันว่าเขายอมไม่ได้ อย่างไรเสียเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ก็ต้องถูกตรวจสอบ ส่วนการตรวจสอบคณะกรรมการป.ป.ช.ก็เป็นหน้าที่ของสภา ซึ่งกฎหมาย สตง.ตอนนี้แก้ไขไม่ได้แล้ว เพราะในชั้นคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ถ้า ไม่เห็นด้วยก็ต้องใช้สิทธิ์ในการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย

เมื่อถามว่าดูเหมือนต้องตั้งคณะกรรมาธิ การร่วมเพื่อพิจารณากฎหมายลูกเกือบทุกฉบับ จะทำให้เสียเวลาหรือไม่ นายพรเพชรกล่าวว่า ตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายเกือบทุกฉบับก็ดีกว่าไม่ได้ตั้ง เพราะถ้ามีปัญหาขัดรัฐธรรมนูญแล้วไม่ตั้งคณะกรรมา ธิการร่วม แล้วไปขัดรัฐธรรมนูญในภายหลังก็จะเกิดความเสียหาย ดังนั้น เสียเวลา นิดหน่อยดีกว่า

ปธ.กมธ.แจงเหตุตัดดาบสตง.

ด้านพล.ร.อ.ยุทธนา ฟักผลงาม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน สนช. กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ไม่เห็นด้วยกับการที่กรรมาธิการ (กมธ.) ปรับแก้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน โดยตัดเนื้อหามาตรา 7 วรรคสาม ในร่างเดิมของ กรธ.เรื่องการให้อำนาจผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สามารถไต่สวนเจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่กระทำทุจริตทิ้งไปว่า

ประเด็นดังกล่าว กมธ.ลงมติไปแล้วว่า ให้ตัดข้อความมาตรา 7 วรรคสามทิ้งทั้งหมด เพราะพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว การให้ ผู้ว่าฯ สตง.เข้ามาไต่สวนเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ที่ทุจริตได้นั้น เป็นการก้าวล่วงอำนาจการทำงานป.ป.ช. ตามที่ป.ป.ช.ท้วงติงมาจริง และยังพบว่าเป็นการให้เลือกไต่สวนได้เฉพาะองค์กรป.ป.ช.อย่างเดียวเท่านั้น ขณะที่องค์กรอื่น สตง.ไม่สามารถเข้าไปไต่สวนทุจริตได้ ดังนั้น กมธ.มองว่าถ้าจะให้ สตง.มีอำนาจเข้าไปไต่สวนการทุจริตได้ ต้องทำได้ทุกองค์กร ไม่ใช่เลือกเฉพาะป.ป.ช. จึงให้ตัดข้อความมาตรา 7 วรรคสามทิ้งทั้งหมด

ยันไม่ถอย-ดูเจตนารมณ์แล้ว

ส่วนที่ กรธ.ยืนกรานว่า ถ้า สนช.ไม่ทบทวนเรื่องดังกล่าวจะขอโต้แย้งให้มีการตั้ง กมธ.ร่วมนั้น พล.ร.อ.ยุทธนากล่าวว่า อย่าไปห่วงเรื่องการตั้ง กมธ.ร่วม ถ้าจำเป็นก็ต้องตั้ง เพราะ กมธ.ยืนยันจะไม่ถอย และ กรธ.ก็คงไม่ถอย กมธ.พิจารณาเจตนารมณ์แล้ว เห็นว่าข้อท้วงติงของป.ป.ช.ถูกต้อง จึงให้ตัดข้อความทิ้งไป การที่ กรธ.ระบุว่า เหตุผลที่ให้ สตง.ไต่สวนทุจริตป.ป.ช.ได้ เพื่อเป็นไปตามหลักการถ่วงดุลระหว่างองค์กรนั้น เรื่องนี้หาก สตง.เห็นว่าป.ป.ช.มีการทุจริตสามารถยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเข้าไปตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ ได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ สตง.เข้าไปไต่สวนเอง

ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่า เนื้อหาที่ กรธ.เห็นแย้งกับ กรธ.ถือเป็นความเห็นต่าง ต้องไปว่ากันในที่ประชุม สนช.ว่าจะเห็นด้วยกับ กมธ.หรือไม่ แต่ประเด็นดังกล่าวไม่ใช่ประเด็นความเห็นแย้งทางการเมือง เป็นเรื่องข้อกฎหมาย ถ้า กรธ.ยังยืนกรานตามหลักการเดิมคง ต้องตั้ง กมธ.ร่วมขึ้นมาทบทวนเนื้อหา อีกครั้ง คาดว่าคงใช้เวลาไม่นานนัก ไม่ทำให้เสียเวลามากมาย

‘หยุย’อ้างสนช.ไม่คว่ำกม.ลูก

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสนช. กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ของสนช.ว่า ขณะนี้เหลือกฎหมายลูกหลักๆ อยู่ 2 ฉบับ คือ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งสนช.ยังไม่เห็นตัวร่างของกฎหมายทั้งสองฉบับ ส่วนตัว ไม่ห่วงร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องกระบวนการเลือกส.ว. แต่เป็นห่วงร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส ที่คาดว่าจะถูกนักการเมืองจับตามองและรุมท้วงติงอย่างหนัก ถ้าส.ส.รับกันไม่ได้ เกรงว่าจะยุ่ง

“ขอให้มั่นใจได้ว่า สนช.จะไม่คว่ำร่างกฎหมายลูกทั้งสองฉบับนี้ เพื่อยื้อการเลือกตั้งออกไปแน่นอน แต่ห่วงตัวแปรเรื่องการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมายลูก โดยเฉพาะร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. หากมีการยื่นตี ความจริง และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มีเนื้อหาส่วนใดขัดต่อรัฐธรรมนูญ กรธ.จะต้องไปแก้ไขเนื้อหาที่เป็นปัญหา แต่คงไม่ถึงขั้นแก้ไขทั้งฉบับ โดยจะแก้เฉพาะในส่วนที่มีปัญหา อาจทำให้ไม่สามารถเลือกตั้งได้ทันโรดแม็ปเดือนพ.ย.2561 ตามที่นายกรัฐมนตรีระบุ ทำให้การเลือกตั้ง อาจเลื่อนไปบ้างเล็กน้อย แต่ไม่เกิน 1-2 เดือน อย่างช้าน่าจะเลือกตั้งได้ไม่เกินเดือน ก.พ.2562” นายวัลลภกล่าว

บิ๊กป้อมติงสุดารัตน์ติดป้ายชื่อ

วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ติดป้ายชื่อตนเองระหว่างทำกิจกรรมเชิญชวนประชาชนปลูกต้นดาวเรืองว่า ตนมองว่าเป็นการโฆษณาให้ตนเอง ขอให้ทุกคนใช้ดุลพินิจ เพราะตอนนี้รู้อยู่ว่ายังไม่เหมาะสม ดังนั้นการเคลื่อนไหวเชิงการเมืองยังไม่ควรดำเนินการในช่วงนี้ เรื่องนี้ต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน จะมาทำอะไร และติดป้ายชื่อ ย้ำว่าทำไม่ได้ ฉะนั้นขอความร่วมมือคุณหญิงสุดารัตน์ และจะส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยทำความเข้าใจ ถึงความเหมาะสม และขอให้นักการเมืองให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว

ชื่นชม‘ตูน’-แจงจัดซื้ออาวุธ

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ตั้งใจวิ่งการกุศลเพื่อหาเงินช่วยเหลือโรงพยาบาล ตามโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. ว่า สิ่งที่นายอาทิวราห์ ทำเป็นสิ่งที่ดี ตนจึงสนับสนุน รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ก็สนับสนุน เขาทำกิจกรรมออกกำลังกายกับตนเองแล้ว ยังทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม

ส่วนที่บางคนวิจารณ์และเชื่อมโยงถึงการจัดซื้ออาวุธ จนไม่มีงบประมาณดูแล โรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้านั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะการจัดซื้ออาวุธเป็นขั้นตอนวางแผนระยะยาว เนื่องจากอาวุธยุทโธปกรณ์ มีการใช้งาน 30-40 ปี เมื่อหมดอายุการใช้งานต้องวางแผนจัดซื้อจัดหาต่อไป ดังนั้นการจัดซื้ออาวุธ ยุทโธปกรณ์จึงเป็นการวางแผนระยะยาว ไม่ใช่อยากซื้อวันนี้พรุ่งนี้ก็ซื้อ อีกทั้งงบประมาณทหารไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ขอยกตัวอย่างสมัยตนเป็น ผบ.ทบ.ไม่ได้ซื้ออะไรเลย แม้แต่น้ำมันเติมเครื่องบินก็ไม่มี ถ้าจะเปลี่ยนอะไรก็ดำเนินการตามนั้น อันไหนถูกและดี ก็เอา

ร้านชำร้องไม่ได้ร่วมธงฟ้า

ที่ จ.ราชบุรี นายประกิจ จึงตระกูล อายุ 45 ปี เจ้าของร้านชำ หน้าถนนมนตรี ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ในการได้รับสิทธิ์ในโครงการธงฟ้าประชารัฐ

นายประกิจเปิดเผยว่า ตนเปิดร้านค้าขายของชำมากว่า 15 ปี หลังทราบข่าวว่ารัฐบาลเปิดโครงการธงฟ้าประชารัฐ ก็สนใจเข้าร่วมโครงการ เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี นอกจากจะช่วยเหลือประชาชนที่ยากจนแล้ว ยังน่าจะช่วยให้ร้านโชห่วยได้กลับฟื้นมามีชีวิตขึ้นได้ จึงยื่นใบสมัครเข้าร่วมโครงการที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดราชบุรีตั้งแต่ช่วงต้นก.ย. โดยวันที่ตนยื่นใบสมัครมีการสอบถามทางหน่วยงานด้วยว่าจะทราบผลได้เมื่อไร อย่างไร พาณิชย์จังหวัดแจ้งเพียงว่าแล้วจะติดต่อกลับไป ที่ผ่านมา ตนก็รอและรอ แต่ก็ไร้การติดต่อกลับจากหน่วยงาน

ไม่มีชื่อ-แต่มินิมาร์ตได้อื้อ

นายประกิจกล่าวว่า จนกระทั่งวันที่ 1 ต.ค. ที่เป็นวันเริ่มต้นโครงการ จึงได้เข้าไปดูรายชื่อร้านค้าที่ผ่านเข้าร่วมโครงการตามเว็บไซต์ของพาณิชย์จังหวัด ก็พบว่าไม่มีชื่อของตนรับสิทธิ์ครั้งนี้ แต่กลับมีร้านมินิมาร์ตชื่อดังรายหนึ่งในจังหวัดราชบุรีได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ พร้อมติดตั้งเครื่องรูดบัตรเครดิตอีดีซี หรือเครื่องรูดบัตรคนจนถึง 38 แห่งในครั้งนี้ จากจำนวน 45 แห่ง ตนได้เข้าไปติดต่อสอบถามที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดราชบุรีอีกครั้ง ได้คำตอบว่าทางหน่วยงานได้ส่งเรื่องของตนเข้าสู่ระบบแล้ว และให้สอบถามไปยังกระทรวงพาณิชย์

นายประกิจกล่าวต่อเมื่อติดต่อเข้าไปก็ถูกโยนให้สอบถามกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการค้าภายใน และฝ่ายเครื่องรูดบัตร ธนาคารกรุงไทย ซึ่งทุกหน่วยงานที่กล่าวมาก็ได้โยนกันไปโยนกันมา และก็ไม่มีใครให้คำตอบแก่ตนได้เลย จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงครึ่งเดือน รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงได้ออกมาร้องเรียนในครั้งนี้

ร้านค้าในหมู่บ้านก็ไม่มีชื่อ

ด้านนายสาโรช สามนานนท์ อายุ 47 ปี เจ้าของร้านค้าและโรงสีเทพอำนวย ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.บ้านไร่ อ.เมือง เปิดเผยว่า เนื่องจากร้านค้าของตนตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน และอยู่ห่างจากตัว อ.เมือง และ อ.วัดเพลง ประมาณ 7 ก.ม. กลุ่มคนที่อยู่อาศัยโดยรอบ เป็นกลุ่มเกษตรกร แรงงาน ซึ่งมีรายได้น้อย ตนจึงสนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยไปยื่นคำร้องที่พาณิชย์จังหวัด หลังจากนั้นได้แต่รอ ชาวบ้านในละแวกก็สอบถามเข้ามาว่าเมื่อไรจะสามารถเข้ามาใช้สิทธิ์ได้ เนื่องจากการเดินทางไปซื้อสินค้าตามห้างร้านที่มีเครื่องรูดบัตรเป็นไปด้วยความยากลำบากและไม่คุ้มกับค่าเดินทาง ก็ได้แต่ตอบไปว่าไม่รู้ แม้จะติดตามสอบถามไปยังพาณิชย์จังหวัด กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หรือแม้แต่ธนาคารกรุงไทย ก็ไม่มีใครให้คำตอบตนได้สักคนว่าตนมีสิทธิ์หรือไม่

พาณิชย์จังหวัดราชบุรีแจง

ด้านนายวิฑูร สุขพลู พาณิชย์จังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า ราชบุรีมีประชาชนที่ เข้าร่วมโครงการ “ประชารัฐ” สวัสดิการช่วยเหลือคนจน ทั้งสิ้น 114,191 คน โดยภาครัฐจะให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมีการเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่าน ในขณะเดียวกันรัฐบาลเปิดโอกาสให้ร้านค้าต่างๆ เข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐ โดยให้หน่วยงานพาณิชย์จังหวัดเป็นผู้เปิดรับสมัคร ซึ่งมีหลักเกณฑ์ว่าต้องเป็นร้านค้าที่มีที่ตั้งเป็นหลักแหล่ง มีชื่อเจ้าของร้านและเลขที่บัตรประชาชน หากเป็นนิติบุคคลต้องมีเลขผู้เสียภาษี

นายวิฑูรกล่าวต่อว่า ในส่วนของจังหวัดราชบุรี ข้อมูล ณ ปัจจุบัน มีร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการและผ่านการบันทึกในระบบเรียบร้อยแล้ว จำนวน 174 แห่ง โดยการติดตั้งเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในรอบแรกมีเพียง 45 แห่ง ซึ่งการอนุมัติพิจารณาว่าร้านค้าใดมีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ในส่วนของพาณิชย์จังหวัดราชบุรีเป็นเพียงผู้รวบรวมรายชื่อร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการเท่านั้น ที่ผ่านมาทางหน่วยงาน ได้รับเรื่องร้องเรียนจากทั้งร้านค้าและประชาชนผู้ได้รับบัตรสวัสดิการถึงปัญหาดังกล่าว ซึ่งหน่วยงานได้ประสานขอคำชี้แจงเพื่อแจ้งแก่ประชาชนแล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบเช่นกัน

เร่งติดเครื่องรูดบัตร-จำกัดร้านธงฟ้า

วันเดียวกัน นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงโครงการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐนั้น วัตถุประสงค์หลักคืออยากจัดสวัสดิการให้ตรงตามความต้องการมากที่สุด และวงเงินงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 จะยังอยู่ที่ 4.19 หมื่นล้านบาท ไม่ปรับเพิ่มขึ้นแม้จะปรับเพิ่มวงเงินในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ร้านธงฟ้าก็ตาม

สำหรับความคืบหน้าในการติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่องอีดีซี) นั้น นายสมชัยกล่าวว่าขณะนี้ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ได้เร่งติดตั้งเครื่องอีดีซีเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย คาดว่าภายในเดือน ต.ค.-พ.ย. นี้จะแล้วเสร็จ พร้อมทั้งได้ประสานกับกระทรวงพาณิชย์ และกรมบัญชีกลางในการดำเนินการส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ การใช้บัตรเป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

นายสมชัยกล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังขอจำกัดการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านบัตรสวัสดิการเฉพาะร้านธงฟ้าเท่านั้น โดยยังไม่มีแนวคิดขยายไปยังร้านค้าชุมชน หรือร้านค้าอื่นๆ เนื่องจากรัฐบาลต้องการ ส่งเสริมให้ร้านธงฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านค้าขนาดเล็กมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ

นอกจากนี้ ยืนยันว่ากระทรวงการคลังจะเดินหน้าแจกจ่ายบัตรสวัสดิการให้กับผู้มีสิทธิถือบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ 7 จังหวัด (กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนครปฐม และจังหวัดสมุทรสาคร) จำนวน 1.3 ล้านคน ได้ภายในวันที่ 17 ต.ค. นี้ และจะสามารถรับสวัสดิการที่รัฐบาลจัดให้ได้ทันที

อีก 7 จังหวัดขอรับบัตรได้ 17 ต.ค.

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ดำเนินการจัดส่งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรแมงมุม) ไปยังหน่วยรับลงทะเบียนทั้ง 7 จังหวัดเรียบร้อยแล้ว และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิ กรมบัญชีกลางได้แจ้งให้หน่ายรับลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิการซื้อสินค้าร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยทำเป็นสติ๊กเกอร์ 200 บาท หรือ 300 บาท ติดไว้บนบัตรด้วย ดังนั้น จึงพร้อมให้ผู้มีสิทธิ นำบัตรประชาชนมาติดต่อขอรับบัตรได้ที่หน่วยรับลงทะเบียนที่เคยลงทะเบียนไว้ ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.เป็นต้นไป

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่าสำหรับการใช้งานบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรแมงมุม) กับระบบตั๋วร่วม (e-Ticket) กรมบัญชีกลาง ได้ร่วมกับสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานเครื่องอ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (e-Ticket) ที่ติดตั้งบนรถเมล์ธรรมดาของ ขสมก. เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ซึ่งผลการใช้งาน เครื่องอ่านบัตรสามารถตรวจสอบและหักเงินได้อย่างแม่นยำ ทั้งนี้ ขสมก.จะดำเนินการทดสอบการใช้งานบัตรกับเครื่องอ่านบัตรที่ติดตั้งบนรถเมล์ธรรมดา จำนวน 800 คัน ตลอดเดือนต.ค.เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้งานได้จริง และจะให้ผู้มีสิทธิใช้บัตรสวัสดิการขึ้นรถเมล์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ต่อเนื่องจากการใช้บริการรถเมล์ฟรีที่รัฐบาลขยายการให้บริการถึงสิ้นเดือนนี้

คาดตั๋วร่วมใช้ได้กลางปี 2561

สำหรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรแมงมุม) กับรถไฟฟ้า สนข.แจ้งว่า อยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบการขายตั๋วของรถไฟฟ้าให้รองรับบัตรแมงมุม (ตั๋วร่วม) ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้ใช้งานได้ประมาณกลางปี 2561 เป็นต้นไป ในส่วนของวงเงินซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าประชารัฐ วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. และวงเงินค่าโดยสารรถไฟ เมื่อได้รับบัตรแล้วสามารถใช้บัตรได้ทันที และหากใช้วงเงินในบัตรไม่หมดจะยกยอดวงเงินแต่ละประเภทสวัสดิการที่คงเหลือจากการใช้จ่ายในเดือน ต.ค.ให้ไปใช้ต่อได้ในเดือน พ.ย.ตามที่เคยได้แจ้งให้ผู้มีสิทธิได้รับทราบไปก่อนหน้านี้แล้ว

ในกรณีที่ผู้มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในจังหวัดอื่นนอกเหนือจาก 7 จังหวัด หากมีความประสงค์ขอเปลี่ยนเป็นบัตรที่ใช้กับระบบตั๋วร่วม (แมงมุม) เนื่องจากได้เปลี่ยนแปลงที่อยู่ปัจจุบันมาอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร และ 6 จังหวัดดังกล่าว อาจขอยื่นเปลี่ยนบัตรได้ตามหลักเกณฑ์ที่กรมบัญชีกลางกำหนด ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cgd.go.th คลิกที่แบนเนอร์ National e-Payment

สุดารัตน์แจงรูปขึ้นรถเชิญชวน

เมื่อเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน ที่ร้านกาแฟ ซ.ลาดปลาเค้า 60 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะกรรมการจัดงานดอกดาวเรืองแทนใจชาวลาดปลาเค้า แถลงกรณีกระแสใน โซเชี่ยลมีเดียเผยแพร่ภาพตนขึ้นรถแห่เชิญชวนประชาชนถวายดอกดาวเรืองเพื่อใช้ ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งอาจไม่เหมาะสม

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า กิจกรรมนี้เริ่มตั้งแต่ 4 เดือนที่แล้ว โดยร่วมมือกับทุก ภาคส่วนทั้งชุมชน วัด โรงเรียน โบสถ์ เริ่มตั้งแต่ปลูก โดยตั้งใจว่าอยากถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อตัวแทนชุมชนมาหารือตนเห็นด้วยกับการจัดกิจกรรมทั้งหมด 9 ซุ้ม 9 ธีม รวมพระราชกรณียกิจมาแสดง และให้ประชาชนร่วมกิจกรรมระหว่างวันที่ 13-15 ต.ค. ไม่รวมกับการปลูกดอกดาวเรืองที่เริ่มกันมาก่อนหน้านี้ 3 เดือน

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า วันสุดท้ายจะมีการรวบรวมดอกดาวเรืองจากพื้นที่ต่างๆ เราจึงจัดเป็นริ้วขบวน ตนกับคณะกรรมการก็ขึ้นรถคันโน้นบ้าง คันนี้บ้าง เพื่อเคลื่อนไปรับดอกดาวเรืองจากซุ้มต่างๆ เป็นกิจกรรมที่เราเตรียมและจัดขึ้นด้วยหัวใจจริงๆ ตนเสียใจที่มีการเอาภาพไม่กี่ภาพ โดยไม่ได้เห็นภาพรวมทั้งหมดมาเป็นประเด็น ขอกราบขอโทษคณะกรรมการทุกคนที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดข่าวแบบนี้ขึ้น และขอยืนยันว่ารถที่เห็นไม่ใช่รถหาเสียง แต่เป็นรถที่ใช้รวบรวมดอกดาวเรืองจาก ซุ้มต่างๆ และรถมอเตอร์ไซค์ก็เป็นรถอาสาสมัครที่ไม่ใช่รถตำรวจ ซึ่งเข้าร่วมขบวนเพื่อคอยอำนวยความสะดวก

น้ำตาคลอ-ยันไม่เกี่ยวการเมือง

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวทั้งน้ำตาคลอพร้อมสะอื้นเป็นระยะว่า ถึงตนจะเป็นนักการเมือง แต่ความเป็นนักการเมืองไม่ได้หมายความว่าจะแสดงความรู้สึกในฐานะคนไทยไม่ได้ ตนก็เป็นคนหนึ่งที่รักและเทิดทูนในหลวงรัชกาลที่ 9 หากการทำงานในอาชีพหนึ่งแล้วบอกว่าอาชีพนั้นไม่สามารถแสดงความจงรักภักดีได้ ตนไม่คิดว่าจะเป็น เช่นนั้น พ่อตนสอนมาตลอดว่าต้องมีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน ตลอด 365 วันที่ผ่านมาตนทำกิจกรรมหลายอย่างมาก เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เช่น การจัดสวดมนต์ ทำโครงการชวนเด็กๆ มาประกวดเรียงความ ภาพวาด จัดบวชพระ ทั้งหมดที่ทำในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่สำนึกในพระมหา กรุณาธิคุณ

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นตนก็เสียใจ บางคนนำรูป มาเขียนด้วยความรู้สึกของตัวเองโดยที่ไม่ได้อยู่ในงาน ยืนยันตนไม่มีเจตนาและไม่มีความรู้สึกเลยว่าจะเอาการเมืองเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ ป้ายที่ติดตามถนนไม่มีชื่อตนสักชื่อ กรรมการจะให้ใส่ชื่อตนก็บอกไม่ใส่ มาพลาดตรงที่ขึ้นรถคันดังกล่าวซึ่งเป็นรถเก่าที่ใช้ตั้งแต่ทำกิจกรรมมูลนิธิไทยพึ่งไทย ซึ่งมีสติ๊กเกอร์ชื่อตนติดอยู่ โดยคณะกรรมการไม่ได้ปิดสติ๊กเกอร์ทับ

พร้อมชี้แจงถ้าคสช.ส่งคนมาคุย

“ขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ดิฉันขอยืนยันว่าไม่มีจุดมุ่งหวังเพื่อการเมืองใดๆ และไม่มีการเอาเรื่องนี้มาหาผลประโยชน์ ดิฉันต้องกราบขออภัย ที่ทำให้ทุกฝ่ายไม่สบายใจ ขอยืนยันเจตนาว่าทั้งชีวิตสิ่งที่ได้รับจากพระมหากรุณาธิคุณมันล้นทุกอย่าง ก่อนการถวายพระเพลิงฯ อะไรที่ทำได้เราก็ทำ โดยไม่ได้คิดว่า เป็นประโยชน์ทางการเมือง แม้จะเคยเป็นนักการเมืองแต่ดิฉันทำในฐานะคนคน หนึ่งที่รักพระองค์ท่าน ดิฉันไม่มีเจตนาใดๆ ที่คิดเป็นอย่างอื่น และเราทำกิจกรรมนี้ด้วยหัวใจ ดิฉันไม่เคยปลูกต้นไม้ แต่ดิฉันภูมิใจที่ได้ปลูกต้นไม้ 4 หมื่นกว่าต้นออกมาได้อย่างงดงาม ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีการนำภาพบางภาพไปโยงในลักษณะนั้น หากผิดพลาดประการใดดิฉันก็กราบขอโทษ และขอน้อมรับผิดจากใจ” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

เมื่อถามว่าต้องไปชี้แจงเรื่องดังกล่าวกับคสช.หรือไม่ เพราะข่าวระบุ คสช.จะส่งเจ้าหน้าที่มาพูดคุย คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ความจริงก็คือความจริง ตนพร้อมที่จะชี้แจง ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่บั่นทอนความตั้งใจ ที่จะทำความดี จะไม่ย่อท้อ และจะทำความดีถวายพระองค์ท่าน

เมื่อถามว่าจะมีการดำเนินคดีกับผู้ที่นำภาพไปโพสต์บิดเบือนหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว คณะกรรมการจัดงานแจงว่าเราได้มีการประชุมกัน เห็นว่าเราไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต แต่หากยังมีการนำไปโพสต์อีกก็จำเป็นที่ต้องดำเนินการฟ้องร้อง

ซักเคอร์เบิร์กมาไทยพบ‘บิ๊กตู่’

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เฟซบุ๊ก จะมาเยือนไทยปลายเดือนนี้ และในวันที่ 30 ต.ค. จะเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งการพบครั้งนี้จะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทย เพราะเฟซบุ๊กเป็นดาต้าเซ็นเตอร์และมีการเชื่อมโยงไปทั่วโลก สะท้อนถึงความสนใจ ของเฟซบุ๊กต่อประเทศไทย และจะได้หารือถึงทิศทางการขยายของเฟซบุ๊กในภูมิภาคอาเซียนด้วย

“มองว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่เจ้าของธุรกิจออนไลน์ระดับโลกมาเยือน หลังจากเจ้าของกลุ่มธุรกิจด้านออนไลน์ต่างๆ ทั้งในสหรัฐเอง หรือจีน ให้ความสำคัญต่อยอดทางธุรกิจ และสร้างความร่วมมือต่างๆ ในอาเซียนมากขึ้น จนหลายธุรกิจเปิดสาขาในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งไทยถือว่าเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับการจับตามอง และเห็นโอกาสการมาลงหรือเป็นพันธมิตรทางใดทางหนึ่ง ในสายตาระดับโลก” นายสมคิดกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน