‘ณัฏฐพล’ ตื้อต่อ ย่องทำเนียบฯ พบ ‘บิ๊กตู่’ หลังกระแสข่าวดันเมีย ลงชิงเก้าอี้ ‘ผู้ว่า กทม.’ เผยคุย ‘ประวิตร’ แล้ว โยน ‘พลังประชารัฐ’ ตัดสินใจผู้สมัครเอง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยย่องเงียบขึ้นทางด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า ใช้เวลานั่งรอประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ นานประมาณ 15 นาที

จากนั้น นายณัฏฐพล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนางทยา ทีปสุรรณ อดีตรองผู้ว่า กทม. ซึ่งเป็นภรรยาของนายณัฏฐพล เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากทม. โดยปฏิเสธว่า ไม่ได้มาพูดคุยเรื่องดังกล่าว การลงสมัครผู้ว่ากทม.ของนางทยา เป็นการเสนอตัวให้คนกรุงเทพฯ เลือก แค่แสดงเจตจำนงสนใจเป็นตัวเลือก ส่วนแผนงานที่จะทำให้ได้รับเลือกก็ต้องมานั่ดูว่าจะไปทางไหน สำหรับตนมีความเป็นพรรคอยู่ก็ต้องระมัดระวังที่จะขับเคลื่อน เพราะมีเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ผู้สื่อถามว่าได้พูดคุยผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) แล้วหรือไม่ นายณัฐพล กล่าวว่า ก็เรียนให้ทราบ เมื่อคนในครอบครัวเสนอตัว ตนก็ต้องเรียนผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อขออนุญาต ถือเป็นมารยาท ส่วนความเหมาะสมที่พรรคจะเลือกใครก็เป็นเรื่องของพรรค เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับทางการเมืองโดยตรง พรรคก็ต้องมองถึงผลประโยชน์ของพรรคสูงสุด ว่าใครจะลงหรือไม่ลงในนามพรรคจะเป็นประโยชน์สูงสุดของพรรคและประเทศ

เมื่อถามว่าช่วงที่ผ่านมามีชื่อพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ประกาศลงสมัครผู้ว่า กทม. ซึ่งสังคมมองว่าพรรค พปชร.สนับสนุน จะเป็นการแข่งคะแนนกันหรือไม่ นายณัฐพล กล่าวว่า การสนับสนุนเป็นการพูดกันในสื่อมวลชนเฉยๆ พรรคยังไม่ได้ประชุม ซึ่งจะต้องประชุมคณะกรรมการสรรหา การเลือกตั้งขนาดใหญ่ พรรคจะต้องมีกระบวนการสรรหา

เมื่อถามย้ำว่านางทยา ในฐานะเป็นภรรยารัฐมนตรี จะทำอย่างไรให้สังคมไม่มองว่ามีความเกี่ยวโยงเอื้อประโยชน์กัน และจะขัดกับกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 34 นายณัฐพล กล่าวว่า ถ้าภรรยาลงสมัครผู้ว่ากทม.จริง ตนก็คงไปหาเสียงไม่ได้ ส่วนจะไปห้ามคนๆ หนึ่งไม่ให้เสนอเป็นตัวแทนประชาชนในขณะที่เขาเป็นนักการเมือง และทำงานการเมืองมา

และถ้าดูกันจริงๆ ตนก็ทำงานแยกกันมาตลอดในด้านท้องถิ่นหรือระดับชาติ ฉะนั้นต้องดูถึงพื้นฐานด้วย ไม่ใช่อยู่ๆ ตนจะผลักดันภรรยามาเป็นนักการเมือง มันไม่ใช่ แต่เขาเป็นนักการเมืองอยู่แล้ว แค่บังเอิญอยู่ในครอบครัวเดียวกันเท่านั้น

เมื่อถามว่ายังยืนยันถึงอย่างไรก็จะให้ภรรยาเสนอตัวที่จะลงสมัครใช่หรือไม่ นายณัฐพล กล่าวว่า เขาตัดสินใจที่จะเสนอตัวแน่นอน ส่วนจะลงในนามอิสระหรือไม่ ต้องดูทีมของนางทยา เพราะเขาทำงานมีทีมวิเคราะห์ถึงเรื่องต่างๆ โอกาสในการที่จะต่อสู้ นโยบาย นางทยามีวิธีการบริหารจัดการ ไม่ได้มาผูกพันกับตนเลย

เมื่อถามว่าแสดงว่ายังตอบไม่ได้ว่าจะลงในนามอิสระ หรือในนามพรรค นายณัฐพล กล่าวว่า ในเรื่องของพรรค ถ้าเป็นพรรคพปชร.วันนี้ไม่ได้เกี่ยวกัน ทางพรรคเขาต้องดูความเหมาะสมและวิธีการของพรรคในการสรรหาผู้สมัคร

ทางคณะกรรมการบริหารและกรรมการสรรหาจะกำหนดว่าจะสรรหาอย่างไร ซึ่งยังไม่ได้พูดคุยกัน เราเป็นพรรคใหญ่ต้องมีขั้นตอนพิจารณาพอสมควร การที่คนใดคนหนึ่งบังเอิญเป็นภรรยาอย่างกรณีของตนที่มีการเสนอตัวมา ขึ้นอยู่กับว่าพรรคจะพิจารณาอย่างไร

เมื่อถามถึงกระแสข่าวถึงขนาดพร้อมที่จะลาออกถ้าพรรค พปชร.ไม่สนับสนุนภรรยาลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่ากทม. เป็นความจริงหรือไม่ นายณัฐพล กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ ไม่จริง ตนอยู่พรรค พปชร.ต้องเคารพกติกาของพรรค ต้องคำนึงถึงมารยาทในทางการเมือง

ต้องรอความชัดเจนของกรรมการสรรหาพรรค ว่าจะพิจารณาอย่างไรหรือจะพิจารณาใคร ซึ่งอาจจะพิจารณานางทยาด้วย หากพรรคตัดสินใจไปทางใดทางหนึ่ง ตนก็ต้องดูความเหมาะสมในเรื่องของมารยาท ขณะเดียวกันความปลอดภัยของพรรค จะไม่เอาการแข่งขันในระดับใดมาเป็นความเสี่ยงหรือทำให้เกิดปัญหากับพรรคแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร.แล้วหรือไม่ นายณัฐพล กล่าวว่า ได้พูดคุยกันแล้ว เป็นการเตรียมขออนุญาต เป็นมารยาที่ต้องทำ ซึ่งพล.อ.ประวิตรไม่ได้ว่าอะไร ก็เพียงรับทราบ

เมื่อถามว่าจะทำให้เกิดความแตกแยกในพรรคหรือไม่ นายณัฐพล กล่าวว่า คงไม่ น่าจะคิดกันไปเองให้เป็นประเด็น ส่วนในพรรคจะมีความเห็นหรือความเหมาะสมว่าใครควรจะลงในระดับท้องถิ่นก็เป็นความแตกแยกที่ปกติอยู่แล้วในการเสนอตัวของผู้สมัครทุกระดับก็ต้องมีมากกว่า 1 คน แต่พรรคก็ต้องเลือกคนที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งท้องถิ่นพรรคการเมืองให้การสนับสนุนได้ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการหาเสียงต่างๆ แม้แต่การสรรหาตัวผู้สมัครทางพรรคก็พิจารณาว่าจะสรรหาอย่างไร แต่พรรค พปชร.เลือกที่จะไม่สนับสนุนใครเลยในการเลือกตั้งท้องถิ่น เช่นเดียวกับการเลือกนายก อบจ. ผู้ว่ากทม.แนวทางก็ไม่ได้แตกต่าง

“ข่าวสองวันที่ผ่านมาอาจมีความผิดเพี้ยนในบางเรื่อง แต่นางทยา ตัดสินใจเสนอเป็นตัวเลือกในการรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ก็แค่นั้น นั่นคือเรื่องใหญ่สุด ส่วนหลังจากนั้นจะมาเกี่ยวข้องกับพรรคใดพรรคหนึ่ง เป็นเรื่องที่แต่ละพรรคจะต้องมาพิจารณาเรื่องความเหมาะสม เขาตั้งใจที่จะทำงานเพื่อการเมือง คงไปห้ามไม่ได้ ผมเป็นสามียังห้ามไม่ได้” นายณัฐพล กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน