วันที่ 1 พ.ย. นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวกรณีคสช. ยังไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองว่า ต้องยอมรับว่าอำนาจเบ็ดเสร็จยังอยู่ในมือของคสช.และรัฐบาล แต่ก็เชื่อว่าคสช.และรัฐบาลคงเข้าใจว่าเมื่อกฎหมายมีข้อกำหนดให้ดำเนินการตามมาตรานั้นๆได้ภายในกี่วัน เช่น 90 วัน 180 วันนั้น คสช.คงจะได้หารือกับรัฐบาลเพื่อขยายเวลาตามห้วงเวลาที่เสียไป เช่น ประกาศใช้พระราชบัญญัติเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมานั้นหมายความว่ามีผลทันที และเมื่อถึงวันที่ประกาศปลดล็อคทางการเมืองแล้วเวลาล่วงไปจำนวนกี่วัน

คสช.กับรัฐบาลคงจะใจกว้างขยายเวลาให้กับพรรคการเมืองได้ดำเนินการตามวันเวลาที่หายไปนั้น ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้เชื่อว่าพรรคการเมืองสามารถทำงานต่างๆ ได้ทัน แต่ถ้าไม่ขยายเวลาเชื่อว่าตรงนั้นจะเป็นอุปสรรค ซึ่งคสช. และรัฐบาลก็คงรู้ เมื่อได้ฟังนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ให้สัมภาษณ์แล้วก็คิดว่ามีแนวโน้มที่น่าจะขยายเวลาออกไปให้

“เมื่อคุณยังไม่ประกาศปลดล็อค ถึงวันที่คุณจะประกาศนั้นเวลากินไปกี่วัน คสช.ก็ต้องใช้อำนาจของคสช.ขยายเวลาให้ เช่น กินเวลามา 60 วันก็ควรขยายเวลาต่อไปให้อีก 60 วันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติงานของแต่ละพรรคการเมือง เมื่อเวลากินไปเท่าไรหลังจากประกาศปลดล็อคการเมืองแล้วเพื่อให้พรรคการเมืองสามารถทำงานได้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบและรัฐธรรมนูญก็ควรขยายเวลาให้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้เชื่อว่าแต่ละพรรคการเมืองสามารถยอมรับข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้นได้เพราะไม่ได้เสียประโยชน์นัก”

ส่วนกฎหมายลูกที่ยังเหลืออยู่ก็อยากให้คณะกรรมาธิการของ สนช.ได้ทำตามห้วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 และรัฐธรรมนูญใหม่ 2560 ที่ได้บัญญัติไว้ว่าจะต้องทำให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน ซึ่งถ้าหากทำได้เสร็จตามเวลานั้น ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาเพราะยังไม่ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา คือยังไม่ได้เริ่มต้น ไม่เหมือนกับพ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว
—–

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน