ปลอดประสพ ประกาศพร้อมใช้ชีวิตตัวเอง เป็นผู้ทดลองฉีดวัคซีนแอสต้าเซเนกา ไม่ได้อยากเป็นฮีโร่ แต่ขอทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม แม้สูงวัย-มีโรคประจำตัว

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2564 ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนเองได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 มาโดยตลอด ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดมีการระบาดของคลัสเตอร์ใหม่ ในตลาดของพื้นที่เขตบางแค กรุงเทพฯ ยิ่งทำให้สถานการณ์น่ากังวล ซึ่งการป้องกันการแพร่ระบาดและสร้างความมั่นใจให้ประชาชนที่ดีที่สุดเวลานี้คือ การได้รับวัคซีนต้านโควิด-19

ที่ผ่านมามีประเด็นเรื่องวัคซันค่อนข้างมาก โดยเฉพาะประเด็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการฉีด แอสตร้าเซนเนกา จนทำให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเลื่อนฉีดออกไปนั้น เพราะต้องรอผลจากการสอบสวนจากต่างประเทศ ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ และจะตรงกับสุขภสพของคนไทยอย่างแม่นยำเพียงใด

ดร.ปลอดประสพ กล่าวว่า การใช้คนไทยทดลองจึงดีที่สุด ตนเองในฐานะที่เป็นกลุ่มสูงอายุ เวลานี้ก็อายุ 76 ปีแล้วอยากจะใช้ตัวเองเป็นผู้ทดลองในการฉีดวัคซีน เพื่อที่จะสามารถตอบคำถามถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ และจะได้มีโอกาสฉีดให้ประชาชนเร็วมากขึ้น

และมีความมั่นใจถึงประสิทธิภาพ และหวังว่าคนอายุเท่าตนเองและคิดแบบตนเองน่าจะยังมีอยู่ และหากอยากมาร่วมกันก็ขอเชิญชวน แต่ตนเองคงไม่รอ เพราะได้ตัดสินใจแล้ว แต่คิดว่าหากได้ตัวอย่างมากยิ่งดี

“ผมอายุ 76 ปีแล้วในปีนี้ ไม่ได้ต้องการอะไร ไม่อยากเป็นฮีโร่ แต่อยากใช้ชีวิตของตัวเองให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมหากจะมีประโยชน์อยู่บ้าง โดยเฉพาะกรณีวัคซีนต้านโควิด-19 ของ แอสตร้าเซนเนกา ผมมีโรคประจำตัวคือ มะเร็ง หัวใจอ่อน ๆ ไต และ ภูมิแพ้ จึงอยากใช้ตัวเองเป็นผู้ทดลองฉีด

และไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไรก็พร้อมรับ หากเกิดอะไรขึ้นไม่ต้องกังวล ผมจะเขียนหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรว่าหากเกิดอะไรผู้ฉีดหรือแพทย์ ไม่ต้องรับผิดชอบ และได้ปรึกษากับทางครอบครัวเป็นที่เรียบร้อย หน่วยงานสามารถติดต่อประสานงานเข้ามาได้เลย” ปลอดประสพกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน