“ณฐพร” ยื่น ป.ป.ช. สอบสมาชิกรัฐสภา 208 คน ที่โหวตผ่านวาระ 3 จงใจทำหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่งอัยการฟ้องศาล สั่งพ้นจากตำแหน่ง

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการกับ สมาชิกรัฐสภา จำนวน 208 คน ที่ลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระ 3 เนื่องจากเป็นการกระทำจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมายป.ป.ช.

และคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญซึ่งมีผลผูกพันทุกองค์กร การที่สมาชิกรัฐสภายังบังอาจลงมติเห็นชอบในวาระ 3 จึงเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ขอให้ป.ป.ช.ไต่สวนและมีความเห็นส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดำเนินการต่อไป

นายณัฐพร กล่าวว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีความชัดเจนอยู่แล้ว ว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้งฉบับทำไม่ได้ หากจะทำก็ต้องไปขอประชามติจากประชาชนก่อน และการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 15/1 เพื่อให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญปี 2560 ทั้งฉบับ

มีผลให้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญต้องถูกยกเลิกไปด้วย ซึ่งจะกระทบกับโครงสร้างทางการเมืองการปกครอง ส่งผลให้คดีความต่างๆ โดยเฉพาะคดีความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ศาลลงโทษไปแล้ว หรืออยู่ระหว่างดำการเนินคดีต้องหลุดพ้นไปด้วย เหตุเพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันถูกยกเลิกไป

นายณัฐพร กล่าวว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการหาทางออกให้ประเทศ เพราะเดิมการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำไม่ได้ แต่คำวินิจฉัยออกมาว่าแก้ไขได้ แต่ต้องทำประชามติถามประชาชนว่ายินยอมหรือไม่ ถ้ายินยอมก็แก้ไขได้

“ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตกไป แต่การที่ส.ส.และส.ว. 208 คนไปรับรองมติ ถือเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป.ป.ช. ระบุว่า ป.ป.ช.มีอำนาจสอบสวน และส่งอัยการฟ้องร้องภายใน 108 วัน ให้ศาลสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง และตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี” นายณัฐพร กล่าว

ส่วนที่ฝ่ายการเมืองอ้างว่ามติดังกล่าวเป็นเพียงการแก้ไขรายมาตรา เพราะแก้เพียงมาตรา 256/1 เท่านั้น นายณฐพร กล่าวว่าการแก้มาตรา 256/1 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.ก็เหมือนการยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งศาลระบุไว้ชัดเจนว่าการแก้ให้มีส.ส.ร.ไปร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นสิทธิของส.ส.ร.ที่จะทำ ฉะนั้นเรื่องนี้กระทบต่อโครงสร้างของประเทศ กระทบต่อการบริหารงานรัฐบาล กระทบต่อทุกภาคส่วน แต่เรามองไม่เห็นกัน ว่าการแก้แบบนี้ก่อให้เกิดผลอะไรตามมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน