เจอเองกับตัว! ‘บิ๊กตู่’ สั่งแก้ปัญหาสายด่วน 1668 หลังลองโทร.ไม่มีคนรับสาย สั่งนำสิบล้อทหารรับคนป่วย ยันไม่ขัดแย้ง”อนุทิน” ฉุนคนบิดเบือนดราม่าครอบครัวติดโควิดสายไหม

เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 21 เม.ย.64 ที่โรงพยาบาลสนามเอราวัณ 2 ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนา เขตหนองจอก กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมโรงพยาบาลสนาม เตรียมรองรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร กทม. ต้อนรับ

ทันทีที่เดินทางมาถึง พล.อ.ประยุทธ์ รับฟังบรรยายสรุปความพร้อมรับผู้ป่วย รวมถึงดูระบบกล้องวจรปิดเฝ้าดูแลผู้ป่วย ก่อนจะกล่าวตอนหนึ่งว่า การทำงานขณะนี้ ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายประสานงานอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนกำหนดการทำงานล่วงหน้า รองรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดในอนาคต

พร้อมกำชับให้ประสานงานในส่วนของโรงพยาบาลสนามกับโรงพยาบาลอื่นๆ ในกรณีผู้ติดเชื้อ มีอาการป่วย หรือจัดเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มสีเหลือง ให้มีความชัดเจน รวดเร็ว และปลอดภัย ขณะเดียวกันสั่งการให้กระทรวงกลาโหม นำรถพยาบาลจากโรงพยาบาลทหาร และค่ายทหารต่างๆ ออกมาช่วยทำงานแก้ไขสถานการณ์ในขณะนี้ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและกทม.

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นปัญหาปัจจุบันนี้คือ การให้บริการ ซึ่งวันนี้ถูกต่อว่ามาอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาในการรับแจ้งผ่าน 1668 โดยตนให้คนโทร.ไป แต่ไม่มีคนรับ ไม่ได้จับผิด แต่ไม่มีคนรับจริงๆ มันเกิดอะไรขึ้น จึงต้องไปแก้ตรงนี้ และตนจะให้กระทรวงกลาโหมช่วยด้วย

ขณะเดียวกันต่อไปในเรื่องรถรับส่งผู้ป่วย ตนทราบว่าโรงพยาบาลเอกชนไม่ค่อยอยากรับ เพราะเตียงเต็ม ในฐานะที่เป็นรมว.กลาโหม สั่งการให้รวบรวมรถพยาบาลของทหารจากโรงพยาบาลและค่ายทหารมารับส่งผู้ป่วยโควิด เพื่อไปร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ตนไม่ได้ต้องการเป็นพระเอกอยู่แล้ว

“เมื่อวานผมไม่สบายใจอยู่อย่างเดียว ที่มีการออกข่าวผู้ป่วยที่อยู่หมู่บ้านที่สายไหมและติดเชื้อโควิดทั้งบ้าน แล้วมีผู้นำเรื่องนี้ไปใช้ประโยชน์และบิดเบือน ผมไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก จะทำอย่างไรก็ได้ให้ประชาชนรู้ว่า ถ้ามาแจ้งจุดนี้ไม่ได้ แล้วจะแจ้งอย่างไรต่อ เพราะบางทีมีประชาชนที่ยังเข้าไม่ถึง และมาติดต่อผ่านโรงพยาบาลใกล้บ้าน แต่ถามแล้วโรงพยาบาลก็ยังไม่ตอบ จนต้องอยู่ในบ้านและติดเชื้อทั้งบ้าน เรื่องนี้ก็วนกลับมาที่รัฐบาลต้องแก้ปัญหา”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า กำชับให้บุคลากรแพทย์เฝ้าระวังตนเอง เพื่อไม่ให้ติดเชื้อ เพราะจะส่งผลกระทบต่อการทำงานได้ ดังนั้น จึงหวังว่าสิ่งที่ได้ช่วยเหลือกัน จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน ที่ร่วมกันดูแลประชาชน ขณะเดียวกันคาดหวังว่าสถิติตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง ถ้าทุกคนร่วมมือกัน

นายกฯ กล่าวว่า การระบาดครั้งนี้ ไม่ใช่ความบกพร่องของ ศบค. เป็นการทำงานร่วมกัน ของนายกฯ และรัฐมนตรี ซึ่งตนสั่งการในส่วนของกลาโหม หากมีปัญหาขึ้นมา ตนก็รับผิดชอบไม่ไหว วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือ ไม่ทำให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ติดเชื้อโควิดเพิ่ม คนที่เข้ามาทำงานก็จะหายไปเรื่อยๆ ขอให้กำลังใจหมอและพยาบาลทุกคนที่ทำงานหนัก เปรียบเสมือนการสู้รบกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ มองไม่เห็น ไม่มีใครรู้ แต่หวังว่าสิ่งที่เราทำวันนี้ จะเป็นสิ่งที่เกื้อหนุนให้การทำงานประสบความสำเร็จ ได้บุญกุศลดูแลประชาชนทั้งประเทศ ในเรื่องสาธารณสุข ซึ่งตนไม่เคยตำหนินายอนุทิน

“ผมไม่ได้มีอะไรสักนิด ไม่ได้ไปตำหนิอะไรเขาสักอย่าง ถามพี่หนูสิ ผมไม่เคยตำหนิเขาสักอย่าง ไม่เคยไปเล่นงาน คุยกันธรรมดา คุยกันทุกเรื่อง ขอให้ทุกคนอย่าขัดแย้งกันโดยเด็ดขาด ผมจะทำงานให้ท่านได้ ถ้าไม่ขัดแย้งกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวถึงข้อเสนอให้รัฐบาลสั่งซื้อวัคซีนจำนวนมากว่า หากฉีดแล้วเกิดอันตราย รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่บริษัท เพราะวัคซีนฉุกเฉิน เขาขายเพียงอย่างเดียว ดังนั้นรัฐบาลต้องใช้เวลาตรวจสอบคุณภาพ

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้สอบถามปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่ามีรถพยาบาลให้บริการเท่าไร พร้อมเสนอว่าถ้าไม่เพียงพอ จะให้นำรถพยาบาลของทหารเสนารักษ์มาช่วย ถ้ายังไม่เพียงพออีก ก็จะนำรถสิบล้อทหารมาช่วยด้วย

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีสอบถามว่ามีอะไรไม่สบายใจหรือไม่ “รักหมออยู่แล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายกรัฐมนตรีก็ต้องแบกรับภาระอยู่แล้ว ยินดีทุกเรื่อง ไม่ใช่จับผิดทั้งหมด ผมคิดอยู่ตลอดเวลา”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน