“วิโรจน์” ซัด “ประยุทธ์” ประมาทถือดี อ้างนำเข้าวัคซีนน้อยเพราะคุมได้ ประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป ทำประชาชนเดือดร้อนหนัก ซ้ำยังออกมาตรการล่าช้า
วันที่ 22 เม.ย.64 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่สั่งซื้อวัคซีนมาน้อย เพราะในช่วงนั้นสามารถบริหารสถานการณ์ได้ดี ว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การระบาดภายในประเทศ แต่เป็นการระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ในช่วงนั้นสถานการณ์อาจไม่ได้ร้ายแรง แต่รัฐบาลควรจะตั้งสมมติฐานกรณีเกิดฉากทัศน์ร้ายแรงที่สุดไว้
หากเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทแห่งหนึ่งก็คงต้องลาออกแล้ว การบริหารวิกฤตการระดับโลกที่มีความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ก็เป็นตัวอย่างให้ดูแล้ว
ดังนั้นรัฐบาลต้องสร้างฉากทัศน์ให้รอบคอบ และรัดกุม ขนาดปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นเร็วร้ายที่สุดยังเละเทะเช่นนี้ การเป็นรัฐบาลที่ดีที่ต้องบริหารราชการแผ่นดินและต้องรับผิดชอบชีวิตประชาชนคนไทย 67 ล้านคน ต้องเตรียมการในทุกฉากทัศน์โดยเฉพาะฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้สะท้อนว่า นายกฯ คนนี้ประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไปและบริหารราชการแผ่นดินด้วยความประมาทถือดี ไม่ฟังคำชี้แนะหรือคำแนะนำของใคร ทำให้ประชาชนทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้ความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ต้องได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การที่รัฐบาลถูกกล่าวหาว่าประเมินสถานการณ์ต่ำเกิน จึงไม่ได้เป็นการกล่าวหาที่เกินไป
เพราะวันนี้แม้รัฐบาลจะไม่ได้สารภาพ สำนึกในโทษ และขอโทษประชาชน แต่มาตรการที่ออกมาอย่างล่าช้า รวมถึงการตั้งคณะกรรมการจัดหาวัคซีนทางเลือกและการเจรจากับบริษัทวัคซีนยี่ห้ออื่น เพื่อนำเข้าเพิ่มอีก 35 ล้านโดสเพื่อฉีดให้ทันภายในเดือนธันวาคมนี้ ก็คือการสารภาพเชิงพฤติกรรมอยู่แล้ว
