โฆษก ปปช. ตอบชัด ปมยื่นร้อง ‘ธรรมนัส’ ผิดจริยธรรมร้ายแรง ยันไม่น่าเข้าข่าย เพราะเรื่องเกิดก่อนเข้ามาดำรงตำแหน่ง ส.ส. ยกเทียบคดี ‘ปารีณา’ ไม่ได้
วันที่ 7 พ.ค.64 นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกป.ป.ช. กล่าวถึง กรณีพรรคก้าวไกลและพรรคเสรีรวมไทยจะยื่นตรวจสอบการทำผิดจริยธรรมร้ายแรงของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กรณีต้องคำพิพากษาศาลออสเตรเลียติดคุกคดียาเสพติดว่า ต้องขอรอดูคำร้องก่อนว่าจะร้องการผิดจริยธรรมในแง่มุมใด
แต่ก่อนหน้านี้เคยมีผู้ยื่นร้องสอบจริยธรรม ร.อ.ธรรมนัส กรณีต้องคำพิพากษาจำคุกที่ประเทศออสเตรเลียมาแล้ว หากฝ่ายค้านยื่นคำร้องในลักษณะเดียวกันเข้ามาเพิ่ม คงนำไปรวมเป็นสำนวนเดียวกันแล้วรายงานให้ที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่รับทราบว่าจะพิจารณาดำเนินการอย่างไรต่อไป
แต่กรณีการร้องเรียนเรื่องการทำผิดจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น จะต้องเป็นการกระทำผิดระหว่างปฏิบัติหน้าที่เป็นส.ส.หรือรัฐมนตรี ถ้าเป็นพฤติการณกระทำผิดก่อนหน้ามารับตำแหน่งทางการเมือง จะไม่เข้าข่ายการทำผิดจริยธรรม
กรณี ร.อ.ธรรมนัส ถ้าจะร้องเรียนเรื่องเคยติดคุกที่ประเทศออสเตรเลียแล้วมาเป็นรัฐมนตรี ไม่น่าจะเข้าข่ายทำผิดจริยธรรม เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนมาเป็นส.ส.หรือรัฐมนตรี ถ้าจะผิดก็เป็นเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการดำรงตำแหน่ง ซึ่งเรื่องการปกปิดลักษณะต้องห้ามไม่ใช่หน้าที่ป.ป.ช.ตรวจสอบ แต่เป็นเรื่องของกกต.
นายนิวัติไชย กล่าวว่า กรณี ร.อ.ธรรมนัส ต้องขอดูคำร้องฝ่ายค้านก่อนว่าร้องเรียนมาในเรื่องใด จึงจะตอบได้ชัดเจนว่า เข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่ ส่วนการเทียบเคียงกับคดี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีการบุกรุกพื้นที่ป่านั้น
กรณี น.ส.ปารีณา ชัดเจนเรื่องการทำผิดจริยธรรม เพราะเป็นการทำผิดระหว่างปฏิบัติหน้าที่ส.ส. แม้จะครอบครองที่ดินมาก่อนเป็นส.ส. แต่เมื่อหน่วยงานรัฐขอให้น.ส.ปารีณาคืนพื้นที่ที่บุกรุก แต่น.ส.ปารีณาไม่ยอมคืน ในช่วงนั้น น.ส.ปารีณามีสถานะเป็นส.ส.แล้ว จึงเข้าเงื่อนไขผิดจริยธรรม ดังน้ันอย่าเพิ่งนำกรณีร.อ.ธรรมนัสกับน.ส.ปารีณามาเทียบเคียงกัน ต้องขอดูรายละเอียดคำร้องให้ชัดเจนก่อน