รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ อัดรัฐบาล ทำคนกลัวฉีดวัคซีนโควิด จวกจัดหาล่าช้า-น่าสงสัย ทำเพื่อผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่

เมื่อวันที่ 17 พ.ค.64 น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ (พช.) กล่าวว่า ถ้าศึกษาข้อมูลจริงๆ วัคซีนโควิด-19 น่าจะไม่อันตรายเท่าวัคซีนบาดทะยัก วัคซีนพิษสุนัขบ้า ถามว่าวัคซีนทั้งสองมีโอกาสแพ้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่ามีโอกาสแพ้ อาจจะเยอะกว่าวัคซีนโควิดด้วยซ้ำดูจากวิธีการผลิตวัคซีน อธิบายง่ายๆ ได้ว่าวัคซีนพิษสุนัขบ้าและบาดทะยัก ใช้พิษจากเชื้อที่เพาะมาทำวัคซีน แต่วัคซีนโควิด-19 ใช้รหัสพันธุกรรมบางส่วนจากเชื้อที่หมดสภาพ (inactive) มาทำวัคซีน

แต่ประเด็นคือทำไมรัฐบาลถึงบริหารสถานการณ์โรคระบาด แบบทำให้คนทั้งประเทศกลัววัคซีนไปได้ขนาดนี้ ระดับคนมีการศึกษาระดับสูงสุดปริญญาเอกยังปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีน ตนวิเคราะห์ว่าน่าจะมาจากการขาดความเชื่อมั่นที่นายกฯ ส่งสารไปสู่ประชาชน การที่ก่อนหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ยอมฉีดวัคซีน 2 ครั้ง พฤติกรรมผิดคำพูด ไม่มาตามนัด ไม่ใช่วิสัยผู้บริหารที่ดี การโลเลเป็นการทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ ส่งผลให้ประชาชนไม่มีความมั่นใจในวัคซีน

ดังนั้น ถือเป็นความผิดพลาดขั้นสูงสุดของพล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล สาเหตุสำคัญมาจากความไม่เชื่อมั่นในข้อมูลที่รัฐบาลแถลงกลับไปกลับมา ซึ่งการแถลงแต่ละเรื่องออกมาทำให้คนรู้สึกว่ามีวาระซ่อนเร้น ไม่เปิดเผยข้อมูลที่ประชาชนควรทราบ เพื่อประโยชน์ในการอยู่ในอำนาจแบบเห็นแก่ตัว

น.ส.เกศปรียา กล่าวต่อว่า การอยู่ในอำนาจของรัฐบาลเป็นประเด็นสำคัญอันดับหนึ่งในการตัดสินใจทุกเรื่อง อย่างวัคซีนในช่วงการระบาดรอบ 2 เมื่อประชาชนทวงถามว่าทำไมไทยไม่มีวัคซีน ขนาดเพื่อนบ้าน กัมพูชา ลาว ยังมีปริมาณการฉีดวัคซีนมากกว่าไทย เป็นเพราะรัฐบาลตัดสินใจผิดพลาดไม่ร่วมกับโครงการจัดหาวัคซีนขององค์การอนามัยโลก (COVAX) ใช่หรือไม่

แทนที่รัฐบาลจะออกมาขอโทษประชาชนว่าตัดสินใจผิดพลาด ต่อไปนี้จะเปิดเสรีให้เอกชนนำเข้าวัคซีนได้ กลับให้โฆษก ศบค.ออกมาให้ข่าวเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ว่า วัคซีนจะมาช้าหรือเร็วแทบไม่มีผลกับคนไทย เพราะเรามีหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยไว้ดูแลอนามัยส่วนตน ข่าวสารตรงนี้มีการทำเป็นอินโฟกราฟิกเผยแพร่ไปในวงกว้าง ประกอบกับข่าวอันตรายของผลข้างเคียงของวัคซีน ที่ไม่มีภาครัฐออกมาอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ด้วยการเปรียบเทียบวัคซีนโควิด-19 กับวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า หรือบาดทะยัก

“การบริหารจัดการจัดหาวัคซีนก็จัดการในลักษณะทำให้ประชาชนมองว่า ล่าช้าและน่าสงสัยว่าจะทำเพื่อผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ขอร้องว่าเว้นสักเรื่องหนึ่งได้ไหม เพราะเรื่องนี้มันมีผลกระทบมากมายกับชีวิตประชาชนทั้งประเทศโดยตรง เห็นรัฐบาลนี้ชอบอ้างว่าเข้ามาปล้นอำนาจไปจากประชาชนเพราะความรักชาติ และตำหนิทุกคนที่เห็นต่างว่าไม่รักชาติ แต่ดูพฤติกรรมที่รัฐบาลบริหารสถานการณ์โรคระบาดคราวนี้ พบว่าการตัดสินใจทำแต่ละอย่างดูเหมือนไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ แบบนี้เรียกรักชาติกว่าคนอื่นก็ได้เหรอ” น.ส.เกศปรียา กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน