ชาวเน็ตเดือด “กลุ่มแคร์” เปิดแคมเปญล่าชื่อ หลังงบสาธารณสุข ถูกตัดมากกว่า งบกลาโหม ลดงบกลาโหม เปลี่ยนอาวุธสงคราม เป็นอาวุธป้องกันเชื้อโรค”

เฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ชวนร่วมลงชื่อผ่านเว็บไซต์ change.org เพื่อส่งเสียงให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณในพ.ร.บ.งบประมาณ 2565 วงเงินกว่า 3,100,000 ล้านบาท ให้เหมาะสมกับสถานการณ์วิกฤต “ลดงบกลาโหม เปลี่ยนอาวุธสงคราม เป็นอาวุธป้องกันเชื้อโรค” โดยมีรายละเอียดดังนี้

ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราจำเป็นต้องทุ่มงบประมาณเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด เพราะคนที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด คือ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน แต่กลับพบการจัดสรรงบประมาณในหลายด้านไม่เหมาะสมกับวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้น

ตัดงบสาธารณสุขมากกว่างบกองทัพ: ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วงเงิน 3,100,000 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน สรุปภาพรวมของงบปี 2565 ลดลงจากปี 2564 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาด้วยพิษโควิด-19 ทำให้ทุกกระทรวงถูกตัดงบ แต่จะลดอะไรบ้างนั้น เป็นเรื่องที่รัฐต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ กระทรวงกลาโหมกลับได้รับการจัดสรรงบกว่า 203,282 ล้านบาท มากกว่ากระทรวงสาธารณสุข (ที่ได้รับงบประมาณจำนวน 153,940.5 ล้านบาท) ถึง 49,341.5 ล้านบาท

ไม่ให้ความสำคัญกับการจัดการสถานการณ์โควิด-19: ความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไขในตอนนี้คือ การปกป้องชีวิตของประชาชนคนไทยจากโรคระบาด งบประมาณควรถูกจัดสรรให้กับกระทรวงที่ต้องแก้ไขปัญหานี้อย่างกระทรวงสาธารณสุขไม่ใช่หรือ? แต่จากข้อมูลระบุงบของกรมควบคุมโรค และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถูกปรับลดลงไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 2564 และน้อยกว่าปี 2562 ที่ยังไม่มีโควิด-19 ส่วนงบบัตรทอง ก็ถูกตัดลดลง 1,815 ล้านบาท จากปี 2564

ไม่ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูประเทศหลังโควิด-19: ถ้าพิจารณางบประมาณปี 2565 จำแนกตามแผนยุทธศาสตร์ พบว่ายุทธศาสตร์ความมั่นคงได้รับงบประมาณกว่า 387,909 ล้านบาท มากกว่ายุทธศาสตร์การสร้างความสามารถความแข่งขัน (หรืองบเร่งด่วนฟื้นฟูเศรษฐกิจ) ที่ได้รับงบประมาณเพียง 338,547 ล้านบาท ทั้งที่หากในปีหน้าสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ยุคหลังโควิดควรจะเป็นการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ดีขึ้นมากกว่าการทุ่มงบประมาณไปกับกองทัพ

แถมเลือกตัดงบกระทรวงศึกษา: นอกจากนี้รัฐบาลได้ตัดงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการลงถึง 24,051 ล้านบาท หรือ 6.75% ทั้งที่การศึกษาเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องพัฒนาเด็กและเยาวชนของชาติให้มีความรู้ความสามารถมากขึ้นเพื่อแข่งขันกับประเทศอื่นในอนาคต

สรุปง่ายๆ คือ งบที่ควรเพิ่มกลับถูกลด งบที่ควรถูกลดกลับยังอยู่ – ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ดูเหมือนว่ารัฐบาลนี้จะไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาประเทศและแก้ไขสถานการณ์วิกฤตในขณะนี้ให้เหมาะสมได้เลย

กลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยร่วมติดตามการอภิปรายในสภา และขอเชิญทุกคนที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดสรรงบประมาณที่ขาดการจัดลำดับความสำคัญร่วมลงชื่อในแคมเปญ “#ลดงบกลาโหม เปลี่ยนอาวุธสงคราม เป็นอาวุธป้องกันเชื้อโรค” เพื่อให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสมกับสถานการณ์วิกฤต เพราะแท้จริงแล้ว ‘ความมั่นคง’ ของชาติไม่ใช่ความเกรียงไกรของกองทัพ แต่คือชีวิตและปากท้องของประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน