“ศิริกัญญา ตันสกุล” เตรียมหั่นงบ “กลาโหม” 3 หมื่นล้าน เปิดยุทธวิธี “ก้าวไกล” สื่อสารถึงประชาชน ช่วยส่งเสียงกดดัน ให้สะเทือนถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.)

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝ่ายนโยบาย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการปรับลดงบประมาณในชั้น กมธ. สัดส่วนของพรรคก้าวไกล ว่า

เราได้ตั้งเป้าปรับลดงบประมาณ เพื่อคืนให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับประชาชน ซึ่งถูกปรับลดไป 3.5 หมื่นล้านบาท เช่น งบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เงินสบทบกองทุนประกันสังคม เงินชดเชยภาษีที่ดินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กองทุนเพื่อเสมอภาคเพื่อการศึกษา (กสศ.) ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่ว่าหน่วยงานเหล่านี้เคยของบประมาณมาก่อนหน้าหรือไม่ โดยกระทรวงต่างๆ ที่เราจะไปตัดงบ คือ กระทรวงกลาโหม ที่สามารถลด ตัด เลื่อน เพื่อให้ได้วงเงินงบประมาณคืนมาเกือบ 3 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้เรายังเจองบก่อสร้างของกระทรวงมหาดไทยอีกจำนวนมากที่สามารถเลื่อนออกไปก่อนได้ เช่น งบเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง งบก่อสร้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัด และอาคารที่ทำการต่างๆ ที่คาดว่าจะสามารถตัดลดได้อีกประมาณ 4 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามก็ต้องเข้าไปดูในรายละเอียดในชั้นอนุ กมธ. เพื่อไม่เป็นการรีบตัดสิน เพราะเมื่อปี 2563 ในชั้น อนุ กมธ. สามารถตัดงบประมาณได้ 3 หมื่นกว่าล้านบาท และสามารถนำไปคืนให้กสศ. หรือเงินชดเชยภาษีที่ดินฯได้เหมือนกัน โดยปีนี้เราก็จะไล่ดูงบอบรมสัมมนา งบครุภัณฑ์ หรือค่าจ้างที่ปรึกษาต่างๆ ที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนเป็นรายบรรทัด

เมื่อถามว่า การที่ส.ส.พรรคก้าวไกล ไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญใน กมธ. งบประมาณ 2565 จะมีผลต่อการทำงานหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่มีเลย ตนยืนยันตลอดการทำหน้าที่ ใน กมธ. 3 ปี และเคยได้รับตำแหน่งรองประธาน กมธ. ก็ยังไม่เห็นว่าการดำรงตำแหน่งสำคัญจะช่วยให้กระบวนการทำงานคล่องขึ้นแต่อย่างใด และ กมธ.หลายคนที่ไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญ ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน ตนคิดว่า คามสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่ง แต่อยู่ที่เนื้อหาสาระที่เราถกเถียงกับและให้เหตุผลหน่วยงานต่างๆ ในการตัดงบมากกว่า

เมื่อถามถึงเสียงพิพากษ์วิจารณ์ต่อการแย่งชิงตำแหน่งสำคัญใน กมธ.งบประมาณ เป็นไปเพื่อดึงงบประมาณให้พื้นที่และรักษาฐานเสียงทางการเมืองของนักการเมือง น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ประเด็นนี้อาจจะมีส.ส. บางส่วนที่ต้องการทำเพื่อคนในพื้นที่ แต่ถ้าลองนึกภาพดูว่า หาก ส.ส.ทุกคน ทำแบบนี้ ก็เท่ากับว่าประเทศนี้ไม่ได้จัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง สุดท้ายอาจจะมีแค่โครงการตัดถนน ทำแหล่งน้ำลงไปในพื้นที่ต่างๆ แต่โครงการที่จะเป็นโครงการพัฒนาที่สำคัญก็อาจจะถูกลดความสำคัญลงไป เช่น งบวิจัย และพัฒนา หรืองบสนับสุนนเอสเอ็มอี เราคิดว่าหากทำแบบนี้ต่อไปก็ไม่ดีแน่นอน

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจะทำงานลำบากหรือไม่ หาก กมธ.ส่วนใหญ่ ยึดแนวทางดึงงบประมาณเพื่อรักษาฐานเสียงของตัวเอง น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า แน่นอนว่า กมธ.6 คน ของพรรคก้าวไกลอาจจะไม่สามารถเป็นเสียงส่วนใหญ่ที่จะโหวตผ่านในแต่ละเรื่อง แต่เรื่องสำคัญคือการทำการบ้านเรื่องข้อมูลตัวเลขและเหตุผล

“สิ่งสำคัญที่สุด คือ เสียงของประชาชนนอก กมธ. ที่จะช่วยกดดัน เหมือนเมื่อปี 2563 ที่ กมธ.โหวตผ่านงบซื้อเรือดำน้ำ แต่ด้วยแรงกดดันจากสังคมก็ทำให้กองทัพเรือถอนเรื่องนี้ออกไป ดังนั้นจึงต้องทำงานสอดประสานกันระหว่าง กมธ. และประชาชนที่อยู่นอกสภา จากวันนี้เป็นต้นไป กมธ. ของพรรคก้าวไกลจะไม่ได้ทำงานแต่ในห้อง แต่จะสื่อสารออกให้ประชาชนข้างนอกได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในกมธ. ถือเป็นการมาฟ้องและแจ้งให้ทราบ เพื่อขอเสียงสนับสนุนจากประชาชน” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน