“ไทยไม่ทน” จี้ฝ่ายค้านลาออก หยุดเป็นเครื่องมือระบอบประยุทธ์ ด้าน ประธานวิปฝ่ายค้าน รับไปคุยพรรคร่วม หวั่นปิ้งปลาประชดแมว เข้าทางฝ่ายรัฐบาล

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 9 มิ.ย. คณะไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานญาติวีรชนพฤษภา 35 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น และนางพะเยาว์ อัคฮาด ยื่นหนังสือต่อนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เพื่อขอให้ฝ่ายค้านเสียสละลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)

โดยนายวีระ กล่าวว่า ด้วยคณะไทยไม่ทนสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย เป็นกลุ่มประชาชนที่ไม่ต้องการให้ระบอบเผด็จการกบฏอยู่สืบทอดอำนาจอีกต่อไป ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม บริหารประเทศอย่างล้มเหลวทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม อีกทั้งยังมีพฤติกรรมอวดเก่ง ตระบัดสัตย์ จนพาประเทศไปสู่ความวิบัติล่มจม หากปล่อยให้บริหารประเทศต่อไปความพินาศจะทวียิ่งขึ้น จึงเรียกร้องต่อประธานวิปฝ่ายค้าน และพรรคร่วมฝ่ายค้าน 2 ข้อ คือ

1. หากพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่สามารถถ่วงดุล หรือไม่สามารถตรวจสอบการบริหารงานของเผด็จการกบฏที่ทำงานไม่เป็น และไม่สามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ควรรีบลาออกเพื่อมาอยู่กับฝ่ายประชาชน และ2.หากไม่สามารถหยุดพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้ 5 แสนล้านบาท และหยุดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ในการแก้ปัญหาโควิด – 19 ซึ่งมีความล้มเหลว อีกทั้งพรรคฝ่ายค้านยังถูกข่มขู่ว่าอาจจะมีการยุบสภาแสดงถึงการไม่ให้คุณค่าแก่พรรคฝ่ายค้าน จึงควรลาออกมาให้หมด

ขณะที่ นายจตุพร กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้พรรคฝ่ายค้านออกมาต่อสู้ร่วมกับประชาชน อย่าอยู่เป็นเครื่องมือให้ให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เพราะวันนี้มีการข่มขู่ ส.ส.ในหลายรูปแบบ ทั้งการขู่ยุบสภา ขู่ลาออก เพื่อเปิดทางให้ตัวเองได้กลับมาใหม่ และจะมีการซื้อขายนักการเมืองเปิดตลาดซื้องูเห่า เพื่ออ้างความชอบธรรมให้ตัวเองได้กลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยต้องไม่ปล่อยให้รัฐบาลเผด็จการได้ออกไปแบบดีๆ เพื่อที่จะกลับมาเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองอีกครั้ง และแม้ว่าการทำหน้าของประธานวิปฝ่ายค้าน จะทำหน้าที่ได้ดีแต่ก็ไม่สามารถยับยั้งรัฐบาลเผด็จการได้ เพราะมีพวกมากลากไปไม่สามารถตรวจสอบได้จริง ดังนั้น หากพรรคร่วมฝ่ายค้านยังอยู่ต่อไปก็มีแต่จะสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลเผด็จการ

“ผมไม่เห็นประโยชน์ในการดำรงอยู่ของฝ่ายค้านยิ่งอยู่ประชาชนจะยิ่งเสื่อมศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย จึงอยากให้ฝ่ายค้านลาออกเพื่อร่วมต่อสู้กับประชาชนจะทรงคุณค่ากว่า และฝ่ายค้านจะได้กลับมาบริหารประเทศต่อไปในอนาคต แต่หากยังให้ระบอบประยุทธ์ดำรงอยู่ และมีอำนาจต่อไป ความเสื่อมจะยิ่งเกิด ระบอบประยุทธ์ไม่สามารถแก้ปัญหาของชาติได้ ซึ่งการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริงทุกฝ่ายต้องเสียสละ” นายจตุพร กล่าว

ด้าน นายสุทิน กล่าวภายหลังรับหนังสือ ว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับฝ่ายค้านต่อไป แต่ส่วนตัวเข้าใจเจตนา และความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมืองของกลุ่มไทยไม่ทนฯ ซึ่งฝ่ายค้านมีจุดร่วมไม่ต่างกัน ที่อยากให้รัฐบาลบริหารบ้านเมืองคำนึงถึงความต้องการหรือความเดือดร้อนประชาชน ที่สำคัญที่สุดคือเราต้องรักษาระบบรัฐสภาไว้ แต่ที่กลุ่มไทยไม่ทนฯ ดำเนินการ เพราะเห็นว่าระบบรัฐสภาที่มีฝ่ายค้านอยู่ด้วยกำลังจะเสื่อมไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้

“ยอมรับว่าการทำงานของฝ่ายค้าน 2 ปีที่ผ่านมา ยังไม่สามารถหยุดยั้งความคิด วิถีทางที่รัฐบาลดำเนินมาที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย ถ้ามองอีกนัยหนึ่งคือฝ่ายค้านยังไม่สามารถตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลได้ ด้วยปัจจัยแรก คือ บางครั้งการตรวจสอบรัฐบาลไปจบที่กระบวนการยุติธรรม และองค์กรอิสระ แต่หลายครั้งเราท้อแท้ อีกปัจจัยหนึ่งคือการใช้เสียงข้างมากไม่คำนึงถึงประชาชน หลายครั้งเราทำงานได้ดี แต่ไม่ได้จบบนหลักเหตุผล เจอเสียงข้างมากลากไป

ดังนั้น มาตรการหนึ่งที่จะกดดันรัฐบาล คือการที่ให้ฝ่ายค้านลาออกจากระบบรัฐสภาก็เป็นวิธีที่มีเหตุผล ถ้าเราสามารถทำวิธีนี้แล้วรัฐบาลเปลี่ยนความคิด และหันมาคำนึงถึงประชาชนเรายินดีลงทุน ดังนั้น ส่วนตัวคิดว่าถ้าลาออกแล้วได้ผลเราก็พร้อม แต่ถ้าลาออกแล้วรัฐบาลไม่แยแส ไม่สนใจเหมือนในอดีตที่เคยเกิดขึ้น เราจะเสียโอกาสหรือไม่ เหมือนปิ้งปลาย่างให้แมวหรือไม่” นายสุทิน กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน