เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2564 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะผู้นำยื่นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนได้เคลียร์ใจกับกลุ่มส.ว. ที่คัดค้านและไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ว่าด้วยการให้สิทธิส.ส. ส.ว. และกรรรมาธิการ(กมธ.) แปรญัตติงบประมาณ และมาตรา 185 ว่าด้วยให้สิทธิส.ส. แทรกแซงข้าราชการแล้ว เพราะเห็นว่าขัดต่อหลักการตรวจสอบ
โดยเนื้อหาทั้ง 2 มาตราดังกล่าว ตนจะเสนอให้กรรมาธิการแก้ไข กลับไปใช้หลักการเดิมของรัฐธรรมนูญปี 2560 แต่จะปรับแก้เพียงแค่ถ้อยคำ และรายละเอียดเพียงเล็กน้อย คือ มาตรา 144 จะคงหลักการห้ามส.ส. ส.ว. และกรรมาธิการ แปรญัตติงบประมาณเพื่อประโยชน์ตนเอง แต่จะกำหนดให้สิทธิเพียงแค่การเสนอแนะความเห็นเท่านั้น ขณะที่มาตรา 185 คงไว้ตามเนื้อหาเดิม แต่จะเพิ่มบทยกเว้นว่า เป็นไปเพื่อช่วยเหลือประชาชน
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การเสนอแก้ไขมาตรา 144 และมาตราา 185 นั้น ตนได้นำเนื้อหามาจากรายงานของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ชุดที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นประธาน โดยเป็นความเห็นของส.ส.ที่ต้องการให้แก้ไข
ตนเข้าใจว่าส.ว.ไม่ได้ร่วมพิจารณาในชั้นกรรมาธิการดังกล่าว และความเห็นที่ไม่เห็นด้วยถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม ส่วนตนยึดมั่นในหลักการตรวจสอบ ถ่วงดุล จึงพร้อมจะแก้ไขเนื้อหาในชั้นกรรมาธิการและจะชี้แจงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 23 มิ.ย.ด้วย
“การเตรียมแก้ไขเรื่องดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้ส.ว. ร่วมลงมติเห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐในวาระแรก และในชั้นกรรมาธิการ เชื่อว่าส.ส.จะปรับแก้ไข แต่หากไม่ปรับแก้ ส.ว.ยังมีสิทธิออกเสียงไม่เห็นด้วยในวาระสามได้”นายไพบูลย์ กล่าว
