เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่การต่ออายุ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 พื้นที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และอ.จะนะ อ.นาทวี อ.เทพา และอ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ถึงวันที่ 30 พ.ย.2561 ว่า กฎหมายดังกล่าว ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นการต่ออายุกฎหมายเดิมที่จะครบกำหนดวันที่ 30 พ.ย.นี้ ดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นที่ต้องต่ออายุกฎหมายดังกล่าวเพื่อบังคับใช้ในพื้นที่ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับกรณีม็อบต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เทพาแต่อย่างใด

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินการกับม็อบนั้น ทางรัฐบาลไม่ได้ทำอะไร เพราะไม่ได้เกี่ยวข้อง เรื่องนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย โดยตนทราบว่าได้ส่งเรื่องให้ศาลเรียบร้อยแล้ว ขณะที่การตั้งข้อกล่าวหน้าแกนม็อบนั้น ตนขอชี้แจงว่าเราไม่ได้ใช้พ.ร.บ.ชุมนุมพื้นที่สาธารณะ พ.ศ.2558 แต่เป็นเรื่องใช้ความรุนแรง และขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงการกีดขวางการจราจร

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของศาล เพราะเราใช้กฎหมายปกติ ไม่ใช้กฎหมายการเมืองส่วนจะรอมชอมให้หรือไม่ เป็นขั้นตอนของศาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

เมื่อถามว่า เกรงว่าจะนำเรื่องนี้ไปจุดประเด็น หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนติดว่าไม่ เพราะเราไม่ได้ใช้กฎหมายชุมนุม และก่อนหน้านี้เราบอกผู้ชุมนุมแล้วว่า อย่าเข้าไปใกล้ที่พัก
นายกฯ แต่อยากให้ส่งหนังสือร้องเรียนมาเท่านั้น และคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีการเมืองหนุนหลัง

เมื่อถามต่อว่า ประเด็นนี้ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับหลัก สิทธิมนุษยชนนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน เพราะเรื่องนี้เป็นกฎหมาย ถ้าทุกคนไม่ทำตามกฎหมายบ้านเมือง แล้วบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร

เมื่อถามย้ำว่า แต่การชุมนุมนั้น ทางรัฐบาลทางให้พันธะสัญญากับกฎบัตรสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนั้นจะสวนกับแนวทางของรัฐบาล หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า“ไม่สวนกัน เพราะเป็นเรื่องกฎหมาย เป็นการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ และกีดขวางการจราจร ผมขอถามว่าจะไปเดินขบวนเรียกร้องได้อย่างไร จะเข้าไปใกล้ที่พักนายกฯได้อย่างไร เราขอให้ส่งหนังสือมาก็พอ พร้อมทั้งย้พว่าไม่ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชน”

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์นี้ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ทำให้รัฐบาล และคสช. เสียภาพลักษณ์ เพราะเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม และไม่ได้ทำตามคำสั่งใคร ส่วนที่มองว่าเรื่องนี้อาจจะมีเจ้าหน้าที่วางยารัฐบาลนั้นคิดว่าไม่มี และไม่กลัว เพราะเราไม่ได้ใช้กฎหมายชุมนุม

“คนในพื้นที่จะรวมตัวกดดันได้อย่างไร เพราะเราทำตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นก็ไปกดดันทางศาลสิ และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ต้องการให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง เพราะทุกคนต้องทำตามกฎหมายเดียวกัน” พล.อ.ประวิตร กล่าว

เมื่อถามว่ารัฐบาลบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดโดยไม่ฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “คนส่วนใหญ่เขาโอเค ทำไมไม่มองคนส่วนใหญ่บ้าง แล้วเป็นประชาธิปไตย หรือเปล่า คนส่วนน้อยก็ยื่นหนังสือมา อันไหนรัฐบาลทำได้ ก็จะทำ อันไหนทำไม่ได้ก็ไม่ทำ”

เมื่อถามต่อว่า รัฐบาล ยังเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ยังไม่ถึงกระบวนการนั้น แต่ตนทราบว่าผลการทำประชาพิจารณ์นั้น คนในพื้นที่ให้ความสนับสนุน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน