ทีมหมอห่วง สถานการณ์ติดเชื้อ หากถึงหลักหมื่น เอาไม่อยู่ มอบมหาดไทย ถกร่วม สาธารณสุข เตรียมยกระดับล็อกดาวน์เข้ม ตั้งแต่ชุมชน เหตุคนไม่ทำตาม บิ๊กตู่ ขอทุกคนใจเย็นให้ฟังทีมหมอเป็นหลัก วอนสื่อสารทิศทางเดียว กันสับสน

วันที่ 16 ก.ค.64 ผู้ข่าวรายงานว่า ในการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค.วาระพิเศษ วันนี้ ที่ประชุมเป็นห่วงจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่ยังมีจำนวนสูงติดต่อกัน เนื่องจากพบว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่ปฏิบัติตามมาตรการและข้อกำหนด โดยเฉพาะการแพร่ระบาดในชุมชน จึงขอให้คณะแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ไปพิจารณาร่วมกันเพื่อหาทางล็อกการแพร่ระบาดในชุมชนที่ยังมีการระบาดสูง เนื่องจากยังเคลื่อนย้ายและเดินทางตลอดเวลา

ขณะที่ทีมแพทย์ใน ศบค.แสดงความเป็นห่วงหากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สูงถึงหลักหมื่นคนต่อวันจะเอาไม่อยู่ จึงพยายามเร่งให้ทุกฝ่ายควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ ไม่ให้จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อถึงหมื่นคน โดยต้องควบคุมพื้นที่ให้เบ็ดเสร็จ โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ทุกฝ่ายทำงานประสานกันทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทยและผู้เกี่ยวข้อง โดยเน้นให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit ตรวจคัดกรองเชิงรุก

“นายกรัฐมนตรีกำชับทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มที่ โดยระบุว่าเข้าใจสถานการณ์ดีและเข้าใจทุกคน แต่ขอให้ใจเย็นๆ กันหน่อย ขอให้ฟังหมอเป็นหลัก การสื่อสารขอให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยขอให้เป็นหน้าที่หมอและศบค.เป็นคนให้ข่าว ไม่อยากให้หมอข้างนอกออกมาพูด เพราะจะทำให้ประชาชนสับสน”

ส่วนเรื่องวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.ถึงเดือนส.ค.จะพยายามหาให้ได้ 13 ล้านโดส ทั้งซิโนแวค และ แอสตร้าเซนเนก้า ส่วนไฟเซอร์จะมีเข้ามา 20 ล้านโดส บริจาคมาให้ 1.5 ล้านโดส เพิ่งจะมาถึงประเทศไทยเร็วๆ นี้ ส่วนวัคซีนโมเดอร์นา ภากาชาดไทยสั่งมา 1 ล้านโดส จะแจกฟรีให้กับบรรดา อบจ.ทั่วประเทศเพื่อนำไปฉีดให้ประชาชน

ทั้งนี้ ในที่ประชุม ศบค.ได้กำหนดเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ระหว่างวันที่ 19 ก.ค.-31 ส.ค. จำนวน 13,000,000 โดส โดยคาดการณ์ว่าจะมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 8,000,000 โดส และซิโนแวค 5,000,000 โดส โดยจะปรับสัดส่วนตามจำนวนวัคซีนที่ได้รับ

โดยจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดสูงสุด และจังหวัดเศรษฐกิจท่องเที่ยว 11 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส จะได้รับวัคซีนร้อยละ 33 หรือ 4.22 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ จะได้รับในสัดส่วน 2.2 ล้านโดส

จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือมีความเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์หลังการระบาด และจังหวัดที่มีแผนเปิดการท่องเที่ยวระยะถัดไปจำนวน 18 จังหวัด แบ่งตามจำนวนประชากร ประกอบด้วย เชียงราย เชียงใหม่ ตาก หนองคายสระแก้ว บุรีรัมย์ อยุธยา ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง สุราษฎร์ธานี ตรัง พังงา และ กระบี่ ร้อยละ 10 หรือ 1.3 ล้านโดส ที่เหลือ 48 จังหวัด คิดตามสัดส่วนจำนวนประชากร จะได้รับการจัดสรรวัคซีนร้อยละ 15 หรือ 1.95 ล้านโดส








Advertisement

นอกจากนี้ยังมีในส่วนของสำนักงานประกันสังคม ซึ่งเป็นกลุ่มขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 13 จังหวัดประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา อยุธยา เพชรบุรี นครราชสีมา และ เชียงใหม่ ได้รับการจัดสรรร้อยละ 15 คิดเป็น 1.95 ล้านโดส และอื่นๆ ได้แก่องค์กรภาครัฐราชทัณฑ์และสำรองส่วนกลางสำหรับตอบโต้การระบาดอีกร้อยละ 12 หรือ 1.56 ล้านโดส

นอกจากนี้ยังจัดสรรสำหรับเป็นเข็มกระตุ้นให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าจำนวนร้อยละ 3 หรือ 0.39 ล้านโดส รวมทั้งจัดสรรวัคซี แอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็มที่สอง ร้อยละ 12 หรือ 1.56 ล้านโดส

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีน คำนวณจากฐานข้อมูลจำนวนประชากร จากทะเบียนบ้านและประชากรแฝง โดยใช้ฐานข้อมูลกรมการปกครอง ณ เดือนมีนาคม 2564 ส่วนจำนวนประชากรแฝง ข้อมูลนำมาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2562 โดยมีเป้าหมายฉีดให้ได้อย่างน้อย ร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรจากทะเบียนบ้าน และประชากรแฝงทุกกลุ่มอายุ ในแต่ละจังหวัด ทั้งผู้มีสัญชาติไทยและไม่มี เป้าหมายให้บริการวัคซีน 13,000,000 โดส ในวันที่ 19 ก.ค.ถึง 31 ส.ค. โดยจำนวนวัคซีนที่จัดสรรจริง อาจปรับเปลี่ยนตามปริมาณวัคซีนที่ไทยจัดหาได้

สำหรับประเภทการจัดสรรเป็นไปตามมติ ศบค.วันที่ 19 ก.ค.64 แบ่งเป็น 3 กลุ่มจังหวัดตามที่เสนอโดยเกณฑ์การจัดสรรจะพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้ 1.ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ได้ลงทะเบียนจองวัคซีนล่วงหน้าในเดือนก.ค.-ส.ค. 2.การให้วัคซีนเพื่อป้องกันเชิงรุกในพื้นที่ระบาดใหม่ 3.โควตาประกันสังคมสำหรับผู้ประกันตน (กทม.+12 จังหวัด) 4.จำนวนประชากรแต่ละจังหวัด

สำหรับกรณีการจัดหาวัคซีนได้ไม่ถึง 13,000,000 โดส การจัดสรรวัคซีนจะลดลงตามสัดส่วนวัคซีนที่ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดของโรค และปริมาณการส่งมอบวัคซีนจากบริษัทผู้ผลิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน