อธิบดีกรมน้ำบาดาล เร่งจัดหาน้ำบาดาล แจกชุมชน-โรงพยาบาล ช่วยลดผลกระทบโควิด ทั้งในกรุงเทพมหานครและพื้นที่ต่างจังหวัด

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 โดยรัฐบาลได้ยกระดับความเข้มข้นของมาตรการป้องกันและเฝ้าระวัง เพื่อชะลอและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ดังนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเร่งจัดหาและสนับสนุนน้ำดื่มสะอาดที่ผลิตจากน้ำบาดาลบรรจุขวดไปมอบให้ชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งในกรุงเทพมหานครและพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภคของหน่วยงานต่างๆ

นายศักดิ์ดา กล่าวอีกว่า โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลรับผิดชอบส่วนกลางพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 1-12 ได้แก่ ลำปาง สุพรรณบุรี สระบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา ตรัง กำแพงเพชร ราชบุรี ระยอง อุดรธานี อุบลราชธานี และสงขลา รับผิดชอบดูแลพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียง ซึ่งแต่ละแห่งจะสูบน้ำบาดาลจากบ่อน้ำบาดาลที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่สำนักงาน แล้วนำไปผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำ เพื่อให้ได้คุณภาพน้ำดื่มสะอาดตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) บรรจุน้ำลงในภาชนะขนาดแตกต่างกัน 6 ขนาด ได้แก่ ขวดพลาสติกขนาด 350, 500, 750 มิลลิลิตร และ 1.5 ลิตร แกลลอนพลาสติกขนาด 5 ลิตร และ 20 ลิตร นำไปแจกจ่ายตามชุมชนและโรงพยาบาลของแต่ละจังหวัด ปัจจุบันแจกจ่ายน้ำดื่มสะอาด ไปแล้วกว่า 550,000 ขวด และอีก 16,000 แกลลอน คิดเป็นปริมาณน้ำรวมมากกว่า 500,000 ลิตร

อธิบดีกรมฯน้ำบาดาล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ นายวราวุธ ได้สั่งการให้กรมฯน้ำบาดาลดำเนินการโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน เป็นหนึ่งในโครงการจัดหาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภคที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลอยู่ระหว่างดำเนินการ ในปีงบประมาณ 2564-2565 จำนวน 199 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคเหนือ 44 แห่ง ภาคกลาง 57 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 48 แห่ง และภาคใต้ 50 แห่ง หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด จะมีประชาชนได้รับประโยชน์ ไม่น้อยกว่า 39,800 ครัวเรือน ปริมาณน้ำที่ใช้ประโยชน์ไม่น้อยกว่า 17.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เพื่อสนับสนุนให้มีการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภคเข้าถึงทุกครัวเรือนทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน