เสกสกล อุ้ม “อภิวัฒน์-สนธิญา” หลังแจ้งความดาราวิจารณ์รัฐบาล จวก พิธา หนุน “ดารา-เยาวชน” ใช้คำไม่สุภาพ แม้ เป็นสิทธิตามกฏหมาย แต่กระทบผู้อื่น

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศิลปินดาราบางคนได้โพสต์ ข้อความดูหมิ่นด้วยการโฆษณา และนายอภิวัฒน์ ขันทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับมิลลิ นักร้องแรปเปอร์สาว ที่สน.นางเลิ้งตามที่เป็นข่าว ว่า เป็นการทำหน้าที่ของนายอภิวัฒน์ ในฐานะผู้ช่วยรมต.และประธานคตส.เท่านั้น

รวมถึงนายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้ไปยื่นหนังสือถึงผบช.น.ขอให้ตักเตือนตรวจสอบคนที่ออกมาโพสต์ดูหมิ่นดูแคลนสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง มีบุคคลใดทำผิดกฎหมายหรือไม่นั้นเป็นการทำในสิทธิส่วนตัวของนายสนธิญาเอง ไม่ได้รับคำสั่งจากใครเช่นเดียวที่ตนไปร้องทุกข์ดำเนินคดีกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ที่กองปราบปรามก็ใช้สิทธิตามหน้าที่ส่วนตัวเช่นกัน

ตนจึงขอเตือนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะที่นายพิธาเป็นนักการเมืองรุ่นน้อง ว่าการสนับสนุนคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในทางที่สร้างสรรค์นั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าสนับสนุนให้คนออกมาโพสต์ในทางดูหมิ่นดูแคลนใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ส่งผลให้สังคมแตกแยก ทำลายขวัญกำลังใจบุคคลากรที่ทุ่มเททำงาน

นายพิธา อย่าใช้วิธีการแบบนี้ เพื่อตีกินทางการเมือง สุดท้ายสังคมจะประนามนายพิธา เป็นคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังคนบางคนเหล่านี้ออกมาโพสต์ด่าทอด้อยค่าคนอื่น ให้เสียหายด้วยคำหยาบคาย ตามที่เป็นข่าวนั้น นายพิธามีจุดประสงค์ให้สังคมแตกแยกวุ่นวาย หวังเพียงเพื่อล้มรัฐบาล เพราะนายพิธาอยากมาเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลเสียเองอย่างนั้นใช่ไหม ตนคิดว่าถ้ามีพฤติกรรมให้สนับสนุนให้คนใช้คำหยาบคายเช่นนี้ ไม่มีทางที่คนไทยจะยอมรับได้อย่างแน่นอน สังคมไทยไม่ต้องการผู้นำที่ส่งเสริมเยาวชนใช้คำไม่สุภาพหยาบคายเช่นนี้

ถ้านายพิธายังไม่เข้าใจกฎหมายก็คงเป็นผู้นำที่ดีไม่ได้ ตนจึงขอแนะกฎหมายสิทธิขั้นพื้นฐานให้นายพิธาเข้าใจสักนิดว่า การแสดงสิทธิเสรีภาพทางความคิดผ่านโซเชียล ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน แต่ในการใช้สิทธินั้นต้องไม่ไปกระทบสิทธิของผู้อื่น ไม่ใช่อ้างว่ามีสิทธิตามกฎหมายแล้วจะพูดอะไรก็ได้

ในความผิดที่เกิดขึ้นแยกเป็น 2 ส่วน ถ้าไปพาดพิงถึงบุคคลใดในเรื่องความผิดต่อส่วนตัว ก็เป็นเรื่องของผู้เสียหายนั้นๆ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ที่กล่าวถึง ยกเว้นถ้าพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว เป็นความผิดอาญาต่อแผ่นดิน บุคคลทั่วไปหรือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ทันที ข้อกฎหมายเหล่านี้นายพิธาควรไปศึกษาใส่สมองบ้าง ขอร้องนายพิธาควรหยุดสนับสนุนหรือยุยงให้คนออกมาสร้างความแตกแยกในสังคมไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน