เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2564 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า เบื้องต้นได้หารือกับทางสภา เมื่อวันที่ 27 ก.ค. รวมทั้งนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ว่าจะงดการประชุมสภาในสัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้าวันที่ 4-5 ส.ค.เนื่องจากสถานการณ์โควิด -19 ที่ยังมีความรุนแรงอยู่ ประกอบกับตนได้หารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย เห็นตรงกันว่ามีความจำเป็นต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อน
ส่วนสัปดาห์ถัดไป วันที่ 11-12 ส.ค.จะขอทบทวนดูก่อนอีกครั้ง เนื่องจากวันที่ 12 ส.ค. เป็นวันหยุดราชการ ทำให้เหลือการประชุมเพียงวันเดียว ถ้าสถานการณ์เรียบร้อยก็สามารถเปิดประชุมได้แม้จะแค่เพียงวันเดียว แต่หากสถานการณ์ยังรุนแรงมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น อีกทั้งสายการบินยังไม่เปิดบริการต้องมีการพิจารณาทบทวนอีกครั้งว่าจะมีการประชุมในสัปดาห์ดังกล่าวหรือไม่
ขณะนี้ได้รับการแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่าคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จะขอบรรจุระเบียบวาระร่างพ.ร.บ.งบประมาณ วาระ 2 และวาระ 3 ในช่วงวันที่ 18-20 ส.ค.นี้ จึงต้องมีการเปิดประชุมสภาอย่างแน่นอน ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ส่วนเรื่องการเดินทางมายังกทม.ของ ส.ส. อาจต้องเดินทางโดยรถยนต์ และเมื่อเข้าที่สภา จำเป็นต้องมีตรวจแบบเข้มข้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลื่อนประชุมเพราะโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อกฎหมายอะไรหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า โชคดีที่กฎหมายที่กำหนดเวลา เราได้ผ่านไปแล้วคือกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ ส่วนกฎหมายที่ค้างอยู่ยังพิจารณาไม่จบมี 1 ฉบับ และมีกฎหมายที่ยังไม่ได้รับหลักการ 1 ฉบับ ส่วนกฎหมายอื่นๆ ยังไม่มีการส่งเข้ามา
ต่อข้อถามว่า หากพรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสามารถบรรจุระเบียบวาระได้เลยหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เท่าที่ทราบจะมียื่นญัตติเข้ามาประมาณกลางเดือน ส.ค. ดังนั้นหากมีการยื่นเข้ามาก็สามารถบรรจุในระเบียบวาระได้เลย ไม่มีปัญหา เพราะมีเจ้าหน้าที่ประจำที่ตรวจสอบญัตติอยู่แล้ว
“สถานการณ์โควิด-19 จะไม่ทำให้ต้องเลื่อนเพราะการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ วาระ 2 และวาระ 3 กับการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไป จนไม่ทันสมัยประชุมนี้ ยังไงทั้ง 2 เรื่องก็ต้องเปิดประชุมสภา” นายชวน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากช่วงเวลาดังกล่าวสถานการณ์โควิด-19 ยังระบาด จะเป็นอุปสรรคในการประชุมหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ต้องพยายามทำให้การทำงานสามารถเป็นไปได้ โดยไม่ให้โรคโควิด-19 มาเป็นอุปสรรค โดยขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยแก้ปัญหา ซึ่งช่วงที่รัฐบาลต้องการความร่วมมือ ทางสภาก็ให้ความร่วมมือและป้องกันอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก ไม่ให้สภาเป็นพื้นที่ที่ปัญหา ซึ่งขณะนี้มีการติดตามสถานการณ์กันทุกวัน เท่าที่ได้รับรายงานจากเลขาธิการสภา พบว่าตั้งแต่มีโควิด-19 มีเจ้าหน้าที่ของสภาติดทั้งสิ้น รวม 12 คน
เมื่อถามว่า ทางสภาจะมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อรองรับการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ระหว่างวันที่ 18-20 ส.ค. หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า นอกจากวิธีการที่เข้มงวดกวดขันแล้ว สิ่งที่ได้รับความร่วมมืออย่างดีมาโดยตลอดคือการสวมหน้ากากอนามัย เพราะจะไปคาดคั้นให้มีวัคซีนตามที่ต้องการคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น ช่วงนี้ต้องรณรงค์เรื่องการสวมหน้ากากให้เข้มงวดจริงๆ ถ้าร่วมมือกันสวมหน้ากากผู้ติดเชื้อก็จะลดลง
