‘ปิยบุตร’ โต้เดือด อ.ดังจุฬาฯ ลั่นตูแค่มาเจอเมีย ไม่นึกว่าจะ “ไปไกล” ผูกโยงเรื่อง เป็นตุเป็นตะ แนะอย่าอ่อนไหวนัก โตเป็นผู้ใหญ่ ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่บ้าง

วันที่ 6 ส.ค.64 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านทางเพจ Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล ตอบโต้ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ความว่า สุดยอดแห่งการเชื่อมโยง คิดเป็นตุเป็นตะ ของไชยันต์ ไชยพร

ผมมีภรรยาเป็นคนฝรั่งเศส คบกันมาเกือบ 10 ปี แต่งงานครบรอบ 5 ปี วันนี้พอดี ภรรยาผมเดินทางรับทุนหลังปริญญาเอกไปหลายแห่งตั้งแต่เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และพึ่งได้รับตำแหน่งอาจารย์ที่ปารีส จึงเดินทางกลับไปตั้งถิ่นฐานถาวรที่บ้านเกิด

ช่วงหลังๆ ผมเอง แทบไม่ได้เจอภรรยา ปีหนึ่ง 2 ครั้ง เต็มที่ 3 ครั้ง ยิ่งพอเกิดวิกฤต Covid-19 ขึ้นมา ยิ่งเดินทางลำบาก จนฝรั่งเศสพึ่งปลดล็อค ให้คนต่างชาติเข้าประเทศได้ ใครยังไม่ฉีดวัคซีน ก็เข้ามาได้ หากมีเหตุผลทางครอบครัว ผมจึงมีโอกาสเดินทางมาช่วงนี้

ในช่วงปกติ ผมก็มาฝรั่งเศสเป็นประจำ ปีละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม ส่วนเรื่องเขียนงานเกี่ยวกับปฏิวัติฝรั่งเศส เรื่องปฏิวัติที่ต่างๆทั่วโลก เรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องประเทศฝรั่งเศส ผมก็เขียนประจำ โพสต์ลงเพจส่วนตัวบ่อยมาก

เมื่อก่อน ก็มีคอลัมน์ในมติชนสุดสัปดาห์ด้วย พอมาเป็นนักการเมือง ก็ยังเขียนเล่าลงเพจสาธารณะอยู่ ก็เลยไม่ทราบว่า คนแบบอาจารย์ไชยันต์และพวก จะอะไรกันนักกันหนากับผม

ถ้าจะพูดภาษาบ้านๆที่ทนความรำคาญไม่ไหว คงพูดว่า… “พวกมึงเป็นเ..ยอะไรกับกูนักหนา แค่กูเดินทางมาฝรั่งเศส มาเจอเมีย แค่เนี้ย” อย่าอ่อนไหวกันนักเลยครับ โตเป็นผู้ใหญ่ ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่บ้าง ให้เยาวชนคนรุ่นหลังเขาเคารพกันบ้าง

ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอาจารย์ไชยันต์ กับนักวิชาการอีกฝ่าย ผมเอง ยังคิดเสมอว่า ผมน่าจะเป็นคนที่สนทนาแลกเปลี่ยนกับอาจารย์ได้ สัมภาษณ์สื่อที่มักคุ้นกับอาจารย์เมื่อหลายเดือนก่อน ผมยังถามไถ่ถึง และยังบอกว่า พร้อมจัดวงพูดคุยกันกับแกเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

ไม่นึกว่า อาจารย์ไชยันต์จะ “ไปไกล” ขนาดนี้ ผูกโยงเรื่อง เป็นตุเป็นตะ อ่านแล้ว คิดว่า ดาวสยาม ยานเกราะ กลับมาเกิดใหม่ ไม่รู้ว่ามีวัตถุประสงค์อะไร คุณธรรมน้ำมิตรในหมู่นักวิชาการ ไม่ต้องมีกันอีกแล้วหรือ ถึงขั้นต้องกุเรื่องทำลายผม ปลุกระดมความเกลียดชังต่อผม บ้ากันขนาดนี้ คงเคารพนับถือกันต่อไปไม่ไหว

ถ้าหากอ่านข้อเสนอผม แล้วคิดดีๆเสียบ้าง สมองแบบไชยันต์และพวก ก็จะรู้ว่า การปฏิรูปสถาบัน คือ ทางออกจริงๆ แต่กลับไม่พิจารณา ไม่สนทนา สาดน้ำมันเข้าใส่ ให้ไฟมันแรงกว่าเดิม ก็ทำกันแบบนี้แหละ ถึงหาทางลงกันไม่ได้เสียที

ถ้าผมใช้แท็คติกแบบไชยันต์และพวกบ้าง ก็คงค้องบอกว่า หากสถานการณ์ในประเทศไทยลื่นไถลไปไกลจนไม่มีใครคาดคิด ไม่มีใครควบคุมได้ ก็เพราะ คนแบบไชยันต์นั่นเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน