จุดเริ่มต้นพรหมลิขิต ‘ทักษิณ-พจมาน’ สาวน้อยเซนต์โย รักแรกพบนักเรียนนายร้อยหนุ่ม เว็บไซต์ thaksinofficial ได้เผยแพร่เรื่องราวชีวิตรักในอดีต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ thaksinofficial ได้เผยแพร่เรื่องราวชีวิตรักนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ พร้อมระบุหัวข้อว่า สาวน้อยเซนต์โย..รักแรกพบนักเรียนนายร้อยหนุ่ม

โดยระบุว่า หนุ่มน้อยจากสันกำแพงเรียนจบ ม.ศ.3 โรงเรียนมงฟอร์ต ด้วยผลการเรียนดีเยี่ยม มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนกวดวิชาหวังเข้าเรียนต่อโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนในฝันของเด็กรักเรียนทุกคนที่ต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

ความฝันของเขาคืออยากเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยากเป็ วิศวกรโยธาตามรอยคุณอา ซึ่งเป็นวิศวกรคุมงานที่เขาเคยเห็นการทำงานแล้วทึ่งมาก แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนเข็มทิศชีวิตกลางครัน ด้วยภาพของนักเรียนเตรียมทหารหนุ่มที่ยืนทรนงองอาจสมชายชาติทหารที่ทำให้เขาเปลี่ยนความคิดและเลือกเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร

ด้วยผลการเรียนดีอยู่แล้ว ทำให้หนุ่มสันกำแพงสอบข้อเขียนผ่านฉลุย แต่โชคชะตาเล่นตลกเมื่อเครื่องตรวจเอกซเรย์ทำงานผิดพลาดพบปอดมีจุด ทั้งที่ความจริงแล้วเขามีสุขภาพดีทุกอย่าง แต่ด้วยสายเลือดนักสู้ เขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆ กลับมาสอบใหม่ครั้งที่สอง เพื่อตามฝันของตัวเอง และตรวจโรคอีกครั้งพบว่าร่างกายปกติทุกอย่าง

ชีวิตนักเรียนเตรียมทหารฝึกหนักมาก แต่สำหรับเขาที่ผ่านการทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เรียนผ่านมาได้ด้วยดี จนก้าวเข้าสู่โรงเรียนนายร้อย ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะต้องเลือกเหล่า ใจหนึ่งเขาอยากเลือกทหารบก แต่ญาติพี่น้องตระกูลชินวัตรก็เลือกเรียนกันไปแล้วหลายคน พอคิดว่าจะเรียนทหารอากาศ ก็มีญาติเลือกเรียนไปแล้วอีกเช่นกัน ทหารเรือล่ะ? เด็กภูเขาอย่างเขาว่ายน้ำไม่เก่งเอาซะเลย สุดท้ายก็ลงเอยที่ตัวเลือกตำรวจ

เคยเรียนเก่งอย่างไร เมื่อเขามาเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจก็เรียนเก่งอย่างนั้น ทุกอย่างดีพร้อมจนได้ตำแหน่งสำคัญเป็นหัวหน้าตอน ดูแลเพื่อนๆ ที่เป็นลูกตอน และยังทำให้ทักษิณเป็นที่รู้จักดีในหมู่รุ่นพี่รุ่นน้อง

จนกระทั่งวันหนึ่งรุ่นน้องชื่ออ๊อด (พงส์เพ็ชร ดามาพงศ์) ถูกกักบริเวณ แต่จำเป็นต้องใช้เสื้อฝึก จึงขอให้เขาช่วยโทรติดต่อคนทางบ้านให้นำเสื้อฝึกมาให้ด้วย คำขอร้องนี้เองคือจุดเริ่มต้นของพรหมลิขิต เมื่อน้องสาวของอ๊อดนำเสื้อฝึกมาฝากไว้ที่บ้านคุณอา แต่นักเรียนนายร้อยหนุ่มทักษิณก็ออกไปธุระข้างนอกพอดี ทำให้คลาดกันอย่างน่าเสียดาย หนำซ้ำยังทำให้คุณอาเข้าใจผิดคิดว่าเด็กสาวคนนั้นเป็นแฟนของทักษิณ








Advertisement

“เฮ้ย ทักษิณ จะมีแฟนทั้งทีต้องเลือกให้ได้อย่างนี้สิวะ เยี่ยมจริงๆ” เขารีบปฏิเสธว่าไม่ใช่แฟน แต่หัวใจยามนั้นกลับเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม รู้สึกอยากเห็นหน้าน้องสาวของอ๊อดขึ้นมาทันที ความบังเอิญยังเกิดขึ้นอีก เมื่อเสื้อที่เธอนำมาฝากไว้นั้นผิด เรื่องราวที่เหมือนจะจบลง จึงกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

“สวัสดีค่ะ..พจมานพูดค่ะ” เสียงใสๆ ของเด็กสาวส่งเสียงมาตามสาย ชายหนุ่มชะงักไปชั่วครู่

“ผมทักษิณนะครับ เป็นรุ่นพี่ของอ๊อด คือเสื้อที่คุณเอามาฝากไว้มันผิดนะครับ ต้องเป็นเสื้อคอวีไม่ใช่คอกลม ไม่ทราบจะหามาเปลี่ยนใหม่ได้ไหม” เสียงนุ่มๆ เบาๆ จึงตอบกลับมา

“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวจะเอาไปให้นะคะ” บทสนทนาสั้นๆ จบลง และโทรศัพท์ถูกวางสายไปแล้ว แต่หัวใจของนักเรียนนายร้อยหนุ่มกลับเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ เขาได้คิดหาวิธีที่จะได้พบหน้าเธอ โดยขออาสาชวนเธอไปเปลี่ยนของที่ร้านเสื้อ เพื่อจะได้เลือกเสื้อไม่ผิด ส่วนเธอก็อาสาจะขับรถไปส่ง หลังจากนัดหมายกันแล้ว เขาก็ได้แต่ตื่นเต้นนั่งคอยทั้งวันที่จะพบหญิงสาวที่ชื่อ “พจมาน”

ดร.ทักษิณเล่าย้อนอดีตในวันวานให้ฟังว่า “ผมจำได้แม่นยำ ผมพบพจมาน ดามาพงศ์ ครั้งแรก วันที่ 3 พฤษภาคม 2513 วันนั้นเธอสวมกระโปรงชุดสีเขียวตองอ่อนกับดำ รวบผมยาวสลวยติดโบไว้ข้างหลัง ดวงตาโตฉายแววอ่อนโยนใจดี หากมีประกายเด็ดเดี่ยวเร้นอยู่”

ในสนามการเรียนนักเรียนนายร้อยทักษิณไม่เคยกลัวใคร แต่ในสนามความรักเขากลับหวั่นไหวและกลัวคู่แข่งอยู่ไม่น้อย หนุ่มบ้านนอกอย่างเขาคุยก็ไม่เก่ง หนำซ้ำไม่ใช่คนพูด “หวาน” แต่เป็นคนพูด “จริง” แถมยังออกแนวขวานผ่าซากอีกด้วย การเปิดฉากชวนสาวคอนแวนต์คุยในวันนั้น จึงผิดความหมายไปไกลมาก กลายเป็นความทรงจำฝังใจคุณอ้อมาจนทุกวันนี้

“น้องอ้อ เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วหรือยังครับ” เป็นคำถามซื่อๆ เพื่อชวนคุยที่หนุ่มวัย 21 ปีคิดแล้วว่าน่าจะสร้างบรรยากาศที่ดี แต่กลับผิดคาด สาวน้อยคอนแวนต์วัยไม่ถึง 16 ปี ถึงกับเงียบไปชั่วขณะ แล้วอ้อมแอ้มตอบกลับมาว่า “อยู่ ม.ศ.3 เซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ค่ะ”

ประโยคแรกก็พลาดเสียแล้ว เพราะทำให้น้องอ้อคิดว่านักเรียนนายร้อยหนุ่มมองเธอว่าอายุมากเกินจริง บันไดก้าวแรกอาจจะก้าวผิดจังหวะ แต่เลือดนักสู้อย่างเขามีหรือจะยอมย่อท้อ บันไดก้าวต่อไปจึงต้องอาศัยความพยายามให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อพิสูจน์ให้เห็นความจริงใจและมั่นคง

โชคยังดีที่มีพี่ชายของน้องอ้อเป็นพ่อสื่อตัวหลักคอยช่วยอีกแรง ทำให้การนัดกินข้าว ดูหนัง และติดสอยห้อยตามพี่ชายเธอไปพบน้องอ้อที่บ้านเป็นไปอย่างราบรื่น การเข้าตามตรอกออกตามประตูของนายร้อยหนุ่มอยู่ในสายตาครอบครัวดามาพงศ์มาโดยตลอด สุดท้ายก็ได้รับอนุญาตให้ไปรับส่งน้องอ้อได้ทุกวัน

“ดูแล้วบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่คนเหลาะแหละ ไม่น่ามาเกี้ยวลูกหลานเราเล่นๆ” ญาติผู้ใหญ่ครอบครัวดามาพงศ์ต่างเห็นพ้องต้องกัน การสอบผ่านสายตาผู้ใหญ่ครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นใบเบิกทางให้ต้นรักแรกพบของนักเรียนนายร้อยทักษิณ และพจมานสาวน้อยคอนแวนต์ ค่อยๆ เติบโตอย่างช้าๆ ด้วยความมั่นคง

“บุคลิกนุ่มนวลที่แฝงความเข้มแข็งในที เป็น “บุคลิกพิเศษ” บางอย่างซึ่งน่าประทับใจมากกว่าความสวยธรรมดาและทำให้ผมตกหลุม “รักแรกพบ” หรือที่เรียกกันว่า Love at first sight ผู้หญิงคนนี้ทันที”

( ข้อมูลจาก หนังสือ ทักษิณ ชินวัตร ตาดูดาว เท้าติดดิน เรียบเรียงโดย วัลยา )

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน