“บิ๊กตู่” ตอบเนือยๆ ไม่ท้อแท้สู้โควิด ลุ้นประเมินผลล็อกดาวน์ ก่อนคลายล็อกบางกิจกรรม “วอน”อย่าทำกิจกรรมที่ห้าม “ระบุ”ประเทศไทยต้องอยู่กับโควิดได้อย่างสงบ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 19 ส.ค. ที่อาคารจุฬาพัฒน์ 14 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงหลังตรวจเยี่ยมระบบการดูแลและติดตามผู้ป่วยโควิด-19 ใน Home Isolation และ การวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ด้วยท่าทีเนือยๆ ว่า วันนี้มาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และมหาวิทยาลัยในกำกับดูแล แก้ไขปัญหาโควิด-19 ในภาพรวม ซึ่งมีหลายภาคส่วนทั้งโรงพยาบาลภาครัฐ ภาคเอกชน

และวันนี้ให้ความสำคัญแนวทางการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเสริมระบบ Home Isolation ซึ่งตนได้เห็นความพึงพอใจของผู้ป่วยที่ได้มีการติดต่อเชื่อมโยงประจำวัน ตรวจสอบ และสอบถามอาการด้วยวาจาทางโทรศัพท์ และระบบออนไลน์ ทำให้สามารถทราบความเปลี่ยนแปลงของอาการในแต่ละวัน

ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาและภาระที่จะเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่มีความแออัดในขณะนี้ นอกจากนี้เป็นการมาให้กำลังใจคณะแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตวัคซีนของไทย mRNA จากใบยามีความก้าวหน้ามากในขณะนี้ ซึ่งรัฐบาลให้ความสนใจในเรื่องนี้และได้ให้แนวทางปฏิบัติมาตลอด

จากการรับฟังฝ่ายปฏิบัติทราบว่าประมาณเดือน ก.ย.นี้ จะมีความคืบหน้าในระดับหนึ่งในการทดสอบกับมนุษย์ ซึ่งก็ต้องดำเนินการต่อไป และระหว่างนั้นก็ต้องปรับปรุงไปเรื่อยๆ ถ้าทำได้ปีหน้าเราก็น่าจะมีวัคซีนของเราเอง เหมือนประเทศอื่นเขาทำกัน อันนี้เป็นความหวังของเรา และตนก็เชื่อมั่นว่าเราต้องทำได้ เราไม่เคยน้อยหน้ากว่าใครในเรื่องนี้ และเราก็เดินหน้ามาตลอด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการคุยกับคณะหมอสิ่งสำคัญต้องดูว่าสถานการณ์ช่วงล็อกดาวน์เป็นอย่างไร คงไม่ถึงกับทุกกิจกรรม แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าบางกิจกรรมที่เปิดคนก็ไม่กล้ามากัน เพราะกลัวจะติดเชื้ออะไรทำนองนี้ เราก็ต้องดูแลตัวเองกันให้ดี ในส่วนที่รัฐบาลจะต้องดูแลก็จะทำให้ดีที่สุด สถานการณ์วันนี้ แม้แต่ในโลกสถานการณ์ก็ยังมีปัญหาเยอะพอสมควร

“สถานการณ์วัคซีนก็เยอะ แต่เราไม่ท้อแท้ เราจะร่วมมือกันแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด ขอบคุณบุคลากรทุกคน ทั้งในส่วนของรัฐบาล กระทรวง รัฐมนตรี และรองนายกฯทุกท่าน รัฐบาลต้องมองไปข้างหน้าหลายวันที่ผ่านมาผมอาจจะไม่ได้ออกมาพบสื่อ เพราะผมก็ต้องแก้ปัญหาอย่างอื่นไปด้วย ไม่ได้แก้ปัญหาโควิคอย่างเดียว

ยังมีปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ ผมก็ต้องมีสมาธิในการทำงาน และวันนี้ก็อยากมาดูความก้าวหน้า และรับเรื่องที่ต้องการให้สนับสนุนในระยะต่อไป ผมก็รับเรื่องทั้งหมด วันนี้เราจะต้องทำอย่างไรให้ประเทศไทยอยู่กับโควิคให้ได้ด้วยความสงบ ถ้าเราไม่สงบมันก็อยู่ไม่ได้ มันจะวุ่นวายร้อนรุ่มไปหมด และทำให้เป็นปัญหาในการทำงาน

วันนี้มาให้กำลังใจ และขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน และฝากไปถึงที่อื่นด้วย เพราะวันนี้มันเกิดหลายอย่าง แต่ถ้าเรามองสถานการณ์ติดเชื้อการแพร่ระบาด การเสียใจไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่วันนี้สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือเราจะมีระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ถ้าเราสามารถดำเนินการได้อย่างที่ได้ทำกันในตอนนี้ ทำแบบครบวงจรทั้งระบบ มันจะเตรียมการรับสถานการณ์โรคระบาดในอนาคตได้

นั่นคือเรามองวิสัยทัศน์ในภายภาคหน้า และเราจะเดินหน้าเศรษฐกิจอย่างไร ซึ่งก็ต้องดูควบคู่กันไป วันนี้กำลังให้พิจารณาอยู่ว่า หลังวันที่ 31 ส.ค.นี้ ขึ้นอยู่กับตัวเลขและผลการทำงาน ว่าจะไปได้อย่างไร เพียงแต่ขอความร่วมมือจากประชาชนนั่นก็คือในเรื่องของใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ และอย่าไปทำกิจกรรมอะไรที่เขาไม่ให้ทำ มันเป็นภาระที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมาเสียแรงเสียเวลา และมีโอกาสติดเชื้อไปที่อื่น ขอให้ร่วมมือตรงนี้ ฝากไว้ด้วย โอเคนะ แค่นี้นะเรื่องอื่นไม่ต้องตอบ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพร้อมเดินออกจากโพเดี้ยมทันที

โดยเมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงชัดเจนเกี่ยวกับข้อสั่งการในการจัดซื้อชุดตรวจ Antigen Test Kid (ATK) ที่มีข้อมูลไม่ตรงกัน กับกระทรวงสาธารณสุขชี้แจง พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว เพียงแต่ระบุ ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ชี้แจง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน