วงเสวนารัฐธรรมนูญ ชี้ชัด ไล่’ประยุทธ์’ อย่างเดียวไม่พอ แนะ รธน.ฉบับใหม่ต้องไม่มีนิรโทษกรรมรัฐประหาร เผยรบ.ต้องดูนายทุน เพราะใช้ทฤษฎีแจกกล้วย

วันที่ 27 ส.ค.64 คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป.) จัดงานเสวนาออนไลน์ “เลิกระบอบประยุทธ์ ทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” โดยมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย , นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย , นายวัฒนา เมืองสุข ประธานคณะกรรมการกฎหมายและการเมือง พรรคไทยสร้างไทย

พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ , นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ,นายเมธา มาสขาว เลขาธิการ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.),นายกษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และที่ปรึกษา ครป. , นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และที่ปรึกษา #ไทยไม่ทน

นายเมธา กล่าวว่า ปัญหาสำคัญทางการเมืองที่เราเผชิญอยู่คือกับดักรัฐธรรมนูญ2560 ซึ่งเป็นเครื่องมือสูงสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดังนั้นโจทย์หลักคือจะไล่พล.อ.ประยุทธ์อย่างเดียวไม่ได้ แต่เราต้องเลิกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วย เพื่อที่จะไล่ระบอบประยุทธ์ออกไป และไม่ให้ส.ว.นำระบอบประยุทธ์กลับเข้ามาใหม่ ดังนั้นจึงต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งระบอบ

“หญิงหน่อย”ชี้ชัดไล่ “ประยุทธ์”อย่างเดียวไม่พอ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจหรือโควิด ความยากลำบากของประชาชนล้วนมาจากการเมืองที่ไม่ดี หรือสืบทอดอำนาจ แม้วันนี้เขาจะบอกว่าเป็นประชาธิปไตยแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นเพียงเสื้อคลุมประชาธิปไตยเท่านั้นเอง วันนี้การแก้รัฐธรรมนูญในรัฐสภาไม่ได้เป็นการแก้ที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน แต่เป็นการแก้เพื่ออำนาจของพรรคการเมืองเท่านั้นเอง คือการแก้แค่ระบบเลือกตั้ง แก้ปัญหาแค่พรรคการเมือง แต่ไม่ได้แก้ปัญหาให้กับประชาชน

ตนอยากใช้เวทีนี้ทวงสัญญาของทุกพรรคที่ได้ไปสัญญากับประชาชนเมื่อครั้งเลือกตั้งที่ทุกพรรคว่าจะเข้ามาแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นของประชาชน แต่ก็ต้องขอบคุณพลังประชาชนที่ช่วยทำให้มีการไขกุญแจดอกแรกให้แก้รัฐธรรมนูญได้ และมีการทำร่างฉบับประชาชน แต่ก็กลายเป็นปาหี่ เข้าสภาในวาระสองแล้วมีผู้ไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พอมาลงมติวาระสามทำให้ร่างของประชาชนตกไปหมด วันนี้เราได้เห็นว่าการแก้ไขรับธรรมนูญในสภาเป็นเพื่อผลประโยชน์ของพรรคการเมืองเท่านั้นไม่มีประชาชนอยู่ในสมการนั้นเลย

ฉะนั้นเราต้องไปจี้รัฐบาลให้ทำประชามติเพื่อสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ระบอบประยุทธ์ยังอยู่ เลือกตั้งใหม่กฎเกณฑ์แบบนี้ยังอยู่ระบอบประยุทธ์ก็ยังสืบทอดอำนาจได้อยู่ ขึ้นอยู่ว่าเขาจะไปรวมกับพรรคการเมืองไหน ท้ายที่สุดก็ยังอยู่ในระบอบประยุทธ์ว่าเขาจะเลือกใครให้มาทำงานบริหารประเทศ ไล่พล.อ.ประยุทธ์ไปอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ถ้าเราไม่แก้ที่รากเหง้าของปัญหาเราไม่มีทางแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

“โภคิน” ลั่น รธน.ฉบับใหม่ต้องไม่มีนิรโทษกรรมรัฐประหาร

นายโภคิน กล่าวว่า คณะรัฐประหารทุกคณะยึดอำนาจเสร็จก็จะออกรัฐธรรมนูญชั่วคราว และสิ่งที่ทำกันเสมอคือ การนิรโทษกรรมตัวเอง ซึ่งเป็นจุดที่อันตรายที่สุดแล้วทำกันแบบที่ผู้คนไม่ได้มองกันให้ชัดเจนว่า นี่มันคือเป็นการต่อวงจรอุบาทว์ และมาถึงรัฐธรรมนูญปี60 ก็ได้เขียนไว้

ทั้งนี้วงจรอุบาทว์ที่มันมีมาถึงทุกวันนี้ และยังดำรงอยู่นั้น ตนเสียใจที่ว่าเคยมีผู้ไปฟ้องศาลยุติธรรม แต่ศาลบอกว่า ถ้ายึดอำนาจสำเร็จก็เป็นรัฏฐาธิปัตย์ แปลกว่าจบตามนั้น ซึ่งถ้าศาลไม่ได้วินิจฉัยแนวทางนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้าคุณยึดอำนาจสำเร็จก็ว่ากันไปแต่ถ้าวันหนึ่งคุณไม่มีอำนาจแม้คุณเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องตัวคุณก็จะใช้ไม่ได้เพราะมันขัดต่อหลักนิติธรรม ดังนั้นถ้าเราจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อยากให้เขียนไว้เลยว่า ห้ามนิรโทษกรรมรัฐประหาร

“ธีระชัย” ชี้ รบ. “ประยุทธ์”ใช้ทฤษฎีแจกกล้วยเลยต้องดูแลนายทุน

นายธีระชัย กล่าวว่า ในแผนยุทธศาสตร์ชาตินั้นจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ เข้าใจว่าแผนเหล่านี้จะนำมาเขียนในกฎหมายทำได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับกฎหมายรัฐธรรมนูญ แม้ในหลายๆประเทศจะมีแผนพัฒนาประเทศ 3,5 ปี แล้วประเทศที่นำแผนยุทธ์ศาสตร์ และอยู่ในระดับเป็นกฎหมายนั้นมีอยู่ไม่เกิน 10 ประเทศ และส่วนใหญ่ก็เป็นประเทศที่ด้อยพัฒนา ถ้าเราดูจะเห็นว่ายุทธศาสตร์ชาติที่เราควรจะมีรวมกันมันไม่คืบหน้า

เช่น ยุทธศาสตร์เพื่อสร้างการแข่งขันเกษตรมูลค่า แต่ไม่ยุติการนำเข้าสารพิษต่างๆ หรือแม้กระทั่งยุทธศาสตร์การสร้างความเสมอภาค การเก็บภาษีหรือการปล่อยให้มีการอุปโภคบริโภคที่อวดรวย นั้นไม่ใช่การยุทธศาสตร์ หลายเรื่องมีการเอื้อนายทุน ดังนั้นกระบวนการในการปฏิรูปที่จะทำให้เกิดประสิทธิผลในยุทธศาสตร์ชาติยอมรับว่ามันไม่เกิดขึ้น

เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการบริหารของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ใช้ทฤษฎีแจกกล้วย พอใช้ทฤษฎีนี้แล้วก็เลยต้องดูแลนายทุน ถ้าเป็นเช่นนี้มันก็จะใช้ระบอบอุปถัมภ์ตลอด ดังนั้นถ้าจะแก้เรื่องนี้คงต้องแก้ที่รากเหง้า ทำให้ทางการเมืองแต่ไม่ใส่ไปในกฎหมายนั่น คือให้พรรคการเมืองนำเอายุทธศาสตร์ชาตินี้มีเป็นจุดขายให้กับประชาชน

“กษิต” ลั่น ตราบใดมีรัฐบาลประยุทธ์จะไม่มีปฏิรูปใดๆเกิดขึ้น

นายกษิต กล่าวว่า การปฏิรูปประเทศในช่วง 7 ปีที่ผ่านมานั้น รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้จัดตั้งสภาปฏิรูปและสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป แต่ผลลัพธ์คือไม่มีการปฏิรูปใดๆทั้งสิ้นในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา และตราบใดที่รัฐบาลยังเป็นพล.อ.ประยุทธ์อยู่ก็จะไม่มีการปฏิรูปใดๆ ที่จะได้ยกสถานะของประเทศให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบแล้วก็มีขีดความสามารถแข่งขันกับระหว่างประเทศ ซึ่งการที่ไม่มีการปฏิรูปใดๆก็เป็นระบบราชการปกครองประเทศ และเป็นนโยบายเชิงทุจริตคอร์รัปชัน อย่างไรก็ตามจะให้มีการปฏิรูปประเทศทั้งหมดคงไม่ได้ เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมาผู้นำรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้คิดที่จะปฏิรูปแต่คิดเพียงจะรักษาฐานอำนาจและใช้งบประมาณเพื่อขยายฐานอำนาจเท่านั้น

ด้าน นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ปัญหาของประเทศที่ยังคงอยู่นั้นมาจากระบอบประยุทธ์ และถ้าระบอบนี้ยังอยู่เชื่อว่าประเทศจะต่ำเตี้ยลงเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ระบอบประยุทธ์ยังคงอยู่ได้คือรัฐธรรมนูญปี60 ที่มีการเขียนโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ กับคณะ ในการสืบทอดอำนาจเขาได้วางโครงสร้างในการที่จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์สืบทอดอำนาจไว้ด้วยองค์กรต่างๆ องค์กรหนึ่งนั้นคือวุฒิสภา มี 250 คน ให้ความเห็นชอบเป็นตุลาการศาล องค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งองค์กรเหล่านี้สามารถที่จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ได้อย่างยาวนาน

“ทวี” ระบุ ยุทธศาสตร์ชาติสร้าง ปชช.เป็นได้แค่คนที่ถูกสงเคราะห์

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า จากรัฐธรรมนูญปี60 ที่ทำให้สิทธิเสรีภาพของประชาชนด้อยลง คือการบัญญัติให้มียุทธศาสตร์ชาติ เพราะเมื่อหน่วยงานราชการต่างๆจะมาของบประมาณก็จะระบุว่าขอโดยเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ ถ้าพูดกันตามตรงคือแผนยุทธศาสตร์ชาตินี้ไม่ได้เกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ดังนั้นยุทธศาสตร์จึงสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนให้กับผู้ร่างแผนนี้เท่านั้น จึงเกิดความเหลื่อมล้ำขึ้นในประเทศเรา

ซึ่งแผนดังกล่าวจะถูกกำหนดว่า ถ้าประชาชนจะให้รัฐดูแลคุณจะเป็นได้แค่คนที่ถูกสงเคราะห์ แล้วต้องเป็นคนยากไร้ ยากจน คนเปราะบาง ซึ่งลักษณะนี้มันไม่ใช่สิทธิเสมอกัน อีกทั้งถ้าจะพิสูจน์สิทธิดังกล่าวที่นั้นก็จะต้องทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตัวเองก่อน คือต้องมีพิสูจน์กับเจ้าหน้าที่รัฐที่คุมยุทธศาสตร์ วันนี้จุดเริ่มต้นของความไม่ยุติธรรมเริ่มมาจากกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ไม่ให้สิทธิเสรีภาพของประชาชน สิ่งที่ตามมาคือเกิดความเหลื่อมล้ำ

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญมันสะท้อนระบอบประยุทธ์ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นพล.อ.ประยุทธ์ไม่ไว้ใจประชาชน ข้าราชการ ไม่เห็นคุณค่าการมีชีวิตของประชาชน ทุกอย่างจะเริ่มต้นด้วยการตั้งคณะกรรมการต่างๆ ดังนั้นจึงต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญและส่งคืนเจ้าของอำนาจอธิปไตยนั่นคือประชาชนเป็นผู้ร่างผ่านส.ส.ร.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน