วิโรจน์ ซัด บิ๊กตู่-เสี่ยหนู ต้องรับผิดชอบ ทำแผนวัคซีนลวงโลก 61 ล้านโดส องครักษ์ ภท. – งูเห่า ประท้วงแหลก เหน็บสวน ขอกำมะถันโปรยหลังงูเพ่นพ่านเต็มสภา

เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2564 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่ 2 โดยในเวลา 15.45 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายด้วยการเปิดคลิปวิดีโอที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข พูดว่า ในไตรมาส 3 วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จะมีเต็มโรงพยาบาล เต็มแขนคนไทย เป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ มีวัคซีน 63 ล้านโดส ไม่พอเก็บ

จากนั้นนายวิโรจน์ ระบุว่า ตนเคยเตือนการกระจายความเสี่ยงวัคซีน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา วันนั้นคนระดับรัฐมนตรียืนยันแล้ว ตนก็เบาใจ ไม่เคยคิดว่าคนระดับรัฐมนตรีจะกล้าโกหกกลางสภา แต่ปรากฏว่าผ่านไป 2 เดือน เพิ่งมีมติครม. แก้สัญญา เมื่อ 23 ก.พ.64 แก้จาก 23 ล้านโดส เป็น 61 ล้านโดส ต่อมา 24 ก.พ.64 นายอนุทิน บอกไทยมีวัคซีนโควิดมากสุดในเอเชีย ถ้านับเป็นอัตราส่วนประชากร ไทยไม่แพ้ใครในโลกนี้

รัฐมนตรีพูดแบบนี้ เป็นใครคงคิดว่าได้ลงนาม ระหว่างคู่สัญญา คือ รัฐบาลไทยกับแอสตร้าฯแล้ว ไม่มีใครกล้าคิดว่าจะมีแผนจัดหาวัคซีนลวงโลก ภายใต้การบริหารงานและคบคิดกันของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และนายอนุทิน

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนต้องเชื่อใจนายอนุทิน เพราะนายอนุทิน ไม่เคยมีท่าทีกังวลใจเลยว่า วัคซีนแอสตร้าฯ จะจัดส่งไม่ได้ตามแผน 61 ล้านโดส แต่ต่อมาวันที่ 3 มิ.ย. ปรากฎว่าหลายโรงพยาบาลประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีน หลังจากนั้นการฉีดยังกระท่อนกระแท่น เพิ่งจะลงตัวได้ไม่นาน ถ้าเรื่องนี้นายอนุทินไม่ผิด คนที่ต้องรับก็คือพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นคนสั่งการให้ยกเลิกการลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องสัญญาจัดหาวัคซีน ตนติดตามมาตลอด เมื่อวันที่ 16 มี.ค.64 ได้ยื่นขอสัญญาจัดหาวัคซีนแอสตร้าฯ ต่อกรมควบคุมโรค และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทั่ง 4 มิ.ย.64 สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้ส่งสัญญาจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าฯ มาให้ตน 26 ล้านโดส ที่ลงนามเมื่อวันที่ 12 ม.ค.64 ซึ่งตนเกิดคำถามว่าสั่งซื้อไป 61 ล้านโดส จำนวนที่เหลือไปไหน แล้วแผนการจัดหาวัคซีนลวงโลกของพล.อ.ประยุทธ์ ก็เริ่มโผล่เค้าลางแห่งความหายนะ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.64 อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ว่าตัวเลข 61 ล้านโดส ในแผนการจัดหาวัคซีนเป็นแค่ศักยภาพในการฉีด ไม่ใช่จำนวนวัคซีนแอสตร้าฯ ที่ต้องส่งมอบ

ทั้งนี้ คนที่ต้องรับที่สุดไม่ใช่นายอนุทิน แต่เป็นพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งจะโยนผิดให้พ้นตัว ให้นายอนุทินรับผิดคนเดียวไม่ถูกต้อง เพราะที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดถึงคำมั่นในแผนการจัดหาวัคซีนลวงโลก 61 ล้านโดสมาตลอดเช่นกัน

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า 2 ก.ค.64 ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยว่าแอสตร้าฯ น่าจะส่งมอบวัควีนให้รัฐบาลได้เพียงเดือนละ 5-6 ล้านโดส ซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นไปตามแผนจัดหาวัคซีน 61 ล้านโดส ที่เดือนก.ค.-พ.ย.64 ต้องได้เดือนละ 10 ล้านโดส และยังชี้แจงด้วยว่าในสัญญาแอสตร้าฯ 61 ล้านโดส ไม่ได้ระบุว่าจะต้องส่งมอบเดือนละเท่าไร และเอกสารสัญญาที่ตนได้รับมาอีกชุด ก็ไม่พบตารางประมาณการส่งยอดอะไรเลย ต้องถามว่าทำสัญญาแบบนี้ได้อย่างไร

นายวิโรจน์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล้าโหมประชาสัมพันธ์ให้คำมั่นกับประชาชนในแผนการจัดหาวัคซีนแอสตร้าฯ 61 ล้านโดส ได้อย่างไร ทั้งที่ยังไม่มีการลงนามครบถ้วนจากคู่สัญญา นี่คือการโกหกหลอกลวงประชาชนของพล.อ.ประยุทธ์ โดยมีผู้ร่วมกระทำการคือนายอนุทิน หรือไม่ ซึ่งสัญญาแผนการจัดหาวัคซีนลวงโลก 61 ล้านโดส ที่ไม่มาตามแผน สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตประชาชนอย่างมาก

นายวิโรจน์ อภิปรายต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน มีเจตนาเอาชีวิตของประชาชนทั้งประเทศไปเสี่ยงเดิมพันกับแอสตร้าฯ ที่ผลิตโดยบริษัทเอกชน ต่อให้มีปัญหาเกิดขึ้น ก็จะสั่งซื้อวัคซีนที่สั่งซื้อได้เร็ว มาฉีดแก้ขัดไปก่อน กีดกันวัคซีนยี่ห้ออื่น ไม่ยอมซื้อวัคซีนไฟเซอร์มาสำรองไว้ตั้งแต่แรก ไม่ยอมให้วัคซีนยี่ห้ออื่นมาตัดหน้า แย่งซีนวัคซีนที่ตัวเองตั้งธงเอาไว้ จนการระบาดเกิดขึ้นอย่างรุนแรง และไม่ยอมเข้าร่วมโครงการโคแว็กซ์ โดยอ้างว่าไม่อยากซื้อวัคซีนในราคาแพง

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบที่ไม่เข้าร่วมโคแวกซ์ จนไม่มีวัคซีนให้ประชาชนที่เพียงพอ จะโยนบาปให้ข้าราชการไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปราย บรรยากาศค่อนข้างวุ่นวาย ไม่ราบรื่น เนื่องจากส.ส.พรรคภูมิใจไทย ทั้งนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ นายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.บุรีรัมย์ รวมถึงส.ส.งูเห่า นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี พรรคพลังประชารัฐ อดีตส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ลุกขึ้นประท้วงขัดจังหวะอยู่ตลอด โดยระบุว่านายวิโรจน์ อภิปรายใส่ร้ายป้ายสีหลายครั้ง ทำให้นายวิโรจน์ กล่าวกับประธานที่ประชุมว่า “ประธานต้องหากำมะถันมาโรยไว้เพราะงูเพ่นพ่านเหลือเกิน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน