กองทัพภาคที่ 2 แจ้งความ ส.ส.ก้าวไกล ชี้แฉปฏิบัติการไอโอ เป็นเอกสารปลอม โดยพบจุดพิรุธอย่างมากมาย โดยเฉพาะลายมือชื่อแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ตรงกับความจริง

1 ก.ย. 2564 – พล.ต.สวราชย์ แสงผล โฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าวชี้แจงกรณี นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

พล.ต.สวราชย์ กล่าวว่า นายณัฐชา ใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยนำเสนอข้อมูลเรื่อง ปฏิบัติการ IO ของกองทัพบก โดยได้เปิดเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการ IO และกล่าวอ้างว่าใช้เอกสารของ กองทัพภาคที่ 2 เป็นหลักฐานประกอบการอภิปราย

กองทัพภาคที่ 2 ขอชี้แจ้งข้อเท็จจริง ให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องดังนี้

1. กรณีการนำเอกสารมาประกอบการอภิปราย จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นพบว่า ไม่ใช่เอกสารจริงโดยพบจุดพิรุธดังนี้

– 1.1 หนังสือที่นำมาแสดง เป็นหนังสือที่ทำขึ้นในห้วงเดือน มี.ค. – ก.ค. 2564 ลายมือชื่อของแม่ทัพภาคที่ 2 ท่านปัจจุบันในหนังสือทั้ง 2 ฉบับ ไม่ตรงกับลายมือชื่อจริง

– 1.2 นามสกุลของ แม่ทัพภาคที่ 2 ท่านปัจจุบันในหนังสือฉบับหนึ่งพิมพ์ไม่ถูกต้อง

– 1.3 ลายมือชื่อของ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ตรงกับลายมือชื่อจริง

– 1.4 มีลายมือชื่อของผู้อำนวยการกองยุทธการกองทัพภาคที่ 2 ที่ลงนามในหนังสือฉบับนั้นซึ่งปัจจุบัน ท่านดังกล่าวได้ปรับย้ายไปดำรงตำแหน่งใหม่แล้วเป็นเวลากว่า 2 ปีเศษตั้งแต่ ต.ค. 2561 และนามสกุลสะกดไม่ถูกต้อง

– 1.5 กำลังพลที่เกี่ยวข้องยืนยันว่า ไม่เคยมีการจัดทำหนังสือดังกล่าว เมื่อตรวจสอบการออกเลขที่หนังสือแล้วเป็นของ กองยุทธการกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเลขหนังสือที่ออกจนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2564 มีเลขหนังสือถึงแค่ลำดับที่ 851 ยังไม่ถึงลำดับที่ 1121 ตามเอกสารที่ผู้อภิปรายนำมาแสดงแต่อย่างใด

– 1.6 ตามเลขที่คำสั่งที่ปรากฏ (เลขที่ 1107/2564) หน่วยมิได้เคยออกคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์ฯแต่อย่างใด อีกทั้งรายชื่อคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการสารสนเทศ กองทัพภาคที่ 2 (ศปสท.ทภ.2) ชั้นยศไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น ระดับผู้อำนวยการกอง ซึ่งต้องมีชั้นยศ พันเอก แต่ในเอกสารมีชั้นยศเป็น พันโท ในส่วนของแม่ทัพน้อยที่ 2 ต้องมีชั้นยศ พลโท ไม่ใช่ พลตรี

– 1.7 การพิมพ์หนังสือราชการตามระเบียบงานสารบรรณปกติจะมีการตรวจสอบความถูกต้อง ความเป็นระเบียบ รวมถึงการสะกดคำให้ถูกต้องตามหลัก แต่หนังสือฉบับดังกล่าวมีคำผิด แม้กระทั่งชื่อ นามสกุลของผู้ที่ต้องลงนาม จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

กองทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นเอกสารอันเป็นเท็จ ที่ได้มีการปลอมแปลงทั้งรูปแบบ ไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ รวมทั้งการลงลายมือชื่อไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง หน่วยจึงได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เป็นหลักฐานแล้ว

2. กรณีมีการอภิปรายว่า มีการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงกำลังพลพร้อมทั้งมีคลิปเสียง และรูปภาพประกอบ กองทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันว่า หน่วยไม่เคยได้รับการสนับสนุนงบประมาณตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ทราบที่มาของคลิปเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปภาพการยืนต่อแถวรับเบี้ยเลี้ยงตามที่กล่าวอ้างนั้น เป็นภาพเก่าของการจ่ายเบี้ยเลี้ยงตามปกติของหน่วย ก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19

ซึ่งสังเกตได้จากกำลังพล ไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย ตามมาตรการที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนด จึงเรียนมาเพื่อทราบในข้อเท็จจริง เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ต่อการดำเนินการของหน่วย

** ภาพประกอบข่าว : Twitter เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน