‘สุทิน’ ตราหน้า ‘ประยุทธ์’ ผู้นำค้าความตายตัวจริง โกวส่วนต่างทั้งวัคซีน-ชุดตรวจ ลั่นต้องเปลี่ยนรัฐบาล หวังพรรคร่วมโหวตไม่เอานายกฯ ให้ของขวัญชาวบ้าน
เมื่อเวลา 18.15 น. วันที่ 3 ก.ย. 2564 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายสรุปว่า มูลเหตุสำคัญแห่งการเปิดอภิปรายเพราะประชาชนจมอยู่ในกองทุกข์ ประเทศจมอยู่ในกองหนี้ อยู่ในสภาพไร้ความหวัง ประชาชนกลัวจน กลัวป่วย กลัวตาย และกลัวอดอยากนี่คือกองทุกข์ที่ประชาชนเผชิญ เพราะผู้นำไร้ภูมิปัญญา ไร้วิสัยทัศน์ ไร้ความสามารถ ผู้นำโกง โอหังคลั่งอำนาจ ไร้สำนึก ไร้ความรับผิดชอบ
“ที่ว่าท่านค้าความตายเป็นเรื่องจริง มีเหตุผล เพราะขณะที่คนทุกข์ คนตายเป็นเบือ ป่วยระนาว ทุกข์ปกคลุมประเทศ แล้วจะมานะจ๊ะ นะจ๋าคงไม่ได้ เหมือนไม่ให้เกียรติคนตาย งานนี้ต้องมีคนตายตกไปตามกันด้วย ที่เราวิตกที่สุดคือท่านสื่อข้อเท็จจริงบิดเบือน ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง คนป่วยโควิด-19 พีควันละเป็นหมื่นๆ พอจะยื่นอภิปรายคนติดเชื้อลดลง คนตายก็ลดลง ถ้าลดแบบนี้ไม่เกิน 1 เดือนหายกันหมด แต่เมื่อไปดูเป็นเพราะท่านตรวจน้อยลง ตรวจน้อยก็เจอน้อย หากรายงานข้อเท็จแบบนี้ประชาชนจะการ์ดตก”
นายสุทิน กล่าวต่อว่า เมื่อคลายล็อกก็กลัวจะเหมือนช่วง เม.ย.63 ขณะที่ประเทศอื่นอย่างสหรัฐหรืออังกฤษฉีดวัคซีนเต็ม วัคซีนดีแล้วก็ยังเจอระบาดรอบใหม่อีก อังกฤษตรวจวันละ 7 แสน ไทยตรวจวันละ 4 หมื่น แล้วใครจะพบมากกว่ากัน ก็ต้องเป็นอังกฤษ พอพูดแบบนี้ประชาชนจะหลงมุม การ์ดตกขณะนี้คนไทยกลัวตาย ใครบริหารแล้วทำให้คนตายนี่ถือเป็นความล้มเหลวสูงสุด ถ้าตายในเวลาสมควรจะไม่ว่า แต่ต้องตายแบบมีมาตรฐาน มีเกียรติ แต่การตายของประชาชนแต่ละรูปแบบน่าเวทนา ตายแบบต่ำกว่ามาตรฐานความเป็นมนุษย์ ตายเหมือนวัวเหมือนควาย เพราะวัวควายก็ขาดวัคซีน
นายสุทิน กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ บอกอย่าเอาคนตายมานำเสนอ แต่เราเอามานำเสนอเพื่อกระตุ้นต่อมรับผิดชอบของท่านที่มันด้าน มันช้าไปหรือเปล่า คนที่ออกมาดิ้นตายกลางถนนเพราะอยากให้รัฐบาลได้เห็น ประจานให้รัฐบาลตื่นจะได้ไม่มีคนตายอีก บางคนหายป่วยก็ไม่มีจะกิน โควิดสร้างความอดอยากยากจน พวกใช้แรงงานเมื่อปิดโรงงานก็ต้องหนีกลับบ้านเพราะไม่มีกิน
“ที่นายกฯ บอกเศรษฐกิจดี ไปดูต่างจังหวัดคนไม่มีจะกินโดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร ราคาสินค้าเกษตรตกมาลงมาเรื่อยตลอด 7 ปี แถมปีนี้อีสานกับเหนือบางส่วนแล้ง มีเพียงยางที่ราคาดีเพราะทั่วโลกต้องใช้ถุงมือยาง แต่ก็ยังจะมาทุบราคายางอีก เอาของดีไปขายเป็นของเสียเหมือนข้าวรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์เป๊ะ ทั้งนี้ โคคือทรัพย์สมบัติของเกษตรกร วันดีคืนดีลัมปีสกินมาทีตายเรียบเป็นแสนตัว หลายคนกู้เงินมาซื้อจบเลยชีวิต แล้วรัฐยังไปปิดตลาดนัดโคกระบือ ตลาดนัดสินค้าเกษตรโดยไม่มีแผนรองรับ พ่อค้าแม่ค้าตายอีก ใส่รถเร่ขายก็เจอตำรวจไถอีก ความทุกข์เป็นลูกโซ่”
นายสุทิน อภิปรายต่อว่า ส่วนเอสเอ็มอีก็เจ๊งเหลือแต่ห้างใหญ่ที่รายได้สูง เพราะมาตรการของท่านไหลเข้าแต่ห้างใหญ่ โดย 5% ของธุรกิจไทยได้สวนแบ่งการตลาดไป 85% รายเล็กรายย่อยตาย พ่อค้าแม่ขายปิดร้านเจ๊ง นี่ยังไม่นับผู้ใช้แรงงานที่ตกงานแบบรายวัน ทุกวันนี้ความกังวลกลัวตายยังปกคุลมคนไทยอยู่ 10 คนฉีดวัคซีนแค่ 2 คน สายพันธุ์ใหม่ก็กำลังจะมาอีก ถามว่าทั้งหมดเป็นความผิดของใคร เพราะชาวบ้านประมาทเลินเล่อ ไม่ฟังหมอหรือนายกฯ หรือ
“เมื่อพิจารณาด้วยความเป็นธรรมเป็นความผิดของรัฐ คณะรัฐมนตรีและผู้นำ ผิดที่ 1.ไม่มีมาตรการป้องกัน เตือนภัยชาวบ้าน การป้องกันไม่ดี ตั้งแต่สนามมวยลุมพินียันผับทองหล่อ เกิดจากความหละหลวมของรัฐ ผับแถวทองหล่อใครคุมก็หลาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ชาวบ้านติดเชื้อจากความทุจริต ความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ ผิดที่ 2.รัฐไม่มีวัคซีนให้ประชาชน มีมาก็ช้า ไม่มีคุณภาพ จะกระจายก็ไม่เป็นธรรมอีก บางคนได้สามเข็มแล้ว บางคนเข็มเดียวยังไม่มีความหวังเลย แล้วชาวบ้านผลิตวัคซีนได้เองหรือไม่ ก็ไม่ได้ รัฐก็ต้องดูแล”
“ทุกวินาทีที่รัฐช้าคือความตาย ส่วนชุดตรวจก็ต้องล็อกให้ตรวจ RT-PCR ต้องรอตรวจ รอเตียงและรอตาย เรามาถึงจุดที่จะให้ใครอยู่ใครไป เรามาถึงจุดที่ยาไม่พอทั้งที่ยุทธศาสตร์ต้องไปถึงเรื่องยารักษาแล้ว ที่สลด คือตายในช่วงรอตรวจเยอะ แสดงว่ารัฐบกพร่อง ไม่มีระบบให้เขาเข้าถึง ตายอยู่บ้านก็เยอะ ถ้าไม่ให้พูดว่าระบบสาธารณสุขล้มเหลวแล้วจะให้พูดว่าอะไร ชาวบ้านเขาผิดหรือ ยาฟาวิพิราเวียร์มีพอหรือไม่ ที่ผ่านมาคนป่วยในระบบต้องการยาเดือนละ 10 ล้านเม็ด แต่ผลิตได้จริงแค่ 2 ล้านเม็ด ซึ่งไม่เพียงพอ ที่กล่าวหานายกฯ และรัฐมนตรีว่าคนตายเป็นหมื่น คนป่วยเป็นล้านก็เพราะพวกท่านล้มเหลว ผิดพลาด จงใจหาประโยชน์ด้วย”
นายสุทิน อภิปรายอีกว่า ถ้าผู้นำเข้มแข็ง บริหารเป็น เราอาจจะป่วยน้อยกว่านี้ ที่ท่านบอกว่าทั่วโลกก็เป็น ถามว่ามีกี่ประเทศที่ชักดิ้นชักงอตายกลางถนน มีประเทศไหนที่ล็อกวัคซีนไว้ตัวเดียว ระบาดแล้วเอาไม่อยู่ เราเป็นประเทศที่รับมือโควิดได้ที่โหล่ คนตายเพราะผู้นำไร้ภูมิปัญญา ไร้วิสัยทัศน์ จึงมีการอภิปรายในวันนี้ ภูมิปัญญาคุณถึงแค่ ผบ.ทบ. แต่ไม่ถึงนายกฯ
“คุณเก่งระบบราชการแต่ไม่ใช่ในระบบบริหารธุรกิจ พอมาบริหารทางการเมืองนายกฯ ก็สั่งไม่ได้ ใช้คนไม่ฟัง ผลงานไม่ออก การบริหารในสภาวะวิกฤตต้องใช้ความสามารถระดับสูง แต่นายกฯ ไม่มีความสามารถบริหารทางการเมือง คิดแบบราชการ รวบอำนาจบริหารมาหมด พอเจอวิกฤตไปไม่เป็น อ้างปัญหาระบบการจัดซื้อจัดจ้าง แล้วทำไมไม่แก้ กว่าวัคซีนจะผ่าน อย.กี่ขั้นตอน รอจนตาย ถ้าผู้บริหารระดับสูงบริหารเก่ง คนใต้องค์กรทำงานง่าย แต่ถ้าไร้ฝีมือจากง่ายจะเป็นยาก”
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ท่านวิเคราะห์โรคว่าแค่ทางเดินหายใจ เรื่องวัคซีนพอเจอแอสตราเซเนกาผลิตในไทยของ บ.สยามไบโอไซแอนซ์ สุดท้ายผลิตให้ไม่พอ แถมรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์ว่าเป็นบริษัทในพระปรมาภิไธย ผิดพลาดไปกันใหญ่ วันนี้ก็ยังวนเวียนอยู่แต่วัคซีน ทั้งที่ควรพูดเรื่องยาได้แล้ว
นายสุทิน อภิปรายต่อว่า นอกจากนี้ นายกฯ ยังไร้ความสามารถไปรวบอำนาจมา 40 ฉบับ อำนาจเต็มมือ เงินเต็มถุง น้ำมันเต็มถัง มือเต็มสภาฯ ก็แก้ปัญหาไม่ได้ แสดงว่าใช้อำนาจไม่เป็น มีงบก็ตั้งงบไม่เป็น เบิกจ่ายช้า ส่วนรัฐมนตรีหลายคนทำงานตั้งใจจริง สุดท้ายก็ดูคนไม่ออก สั่งคนไม่ได้ก็เจ๊ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นประธาน กบข.เรื่องข้าวทำไมต้องรู้ทุกเรื่อง ทีคุณเป็นประธานการยางฯ อ้างได้ว่าทำไมต้องรู้ทุกเรื่อง
“ที่สำคัญคือผู้นำโกงโดยโกงทุกขั้นตอนของโควิด ปล่อยลูกน้องทุจริต หากความจำยังดีมีเรื่องโกงหน้ากากอนามัยชาวบ้าน โกงเตียงก็มีราคาเป็นแสน ของพิมรี่พายแค่หลักหมื่น ที่สำคัญสุดคือโกงวัคซีน ทุกคนติดใจที่สุด ให้อภัยไม่ได้เพราะโกงแล้วมีคนตาย คนป่วย ประเทศเดี้ยง เรื่องวัคซีนซิโนแวคคนสงสัยว่ามีผลประโยชน์ คนเชื่อไปแล้วว่ามีการโกง เพราะเมื่อเริ่มมีคนป่วย ท่านประเมินวัคซีนผิดพลาด ประเทศอื่นจองวัคซีนแล้ว ส่วนเราใจเย็น สุดท้ายก็หาวัคซีนวุ่น”
“ประเทศอื่นเข้าโคแวกซ์แต่เราไม่เข้า วันนี้ในโลก 173 ประเทศเข้าโคแวกซ์ มี 7 ประเทศที่ไม่เข้าร่วมซึ่งมีไทยด้วย อาจเป็นเพราะจะซิกแซกราคาไม่ได้ ไม่มีเงินทอน พอจะหาวัคซีนหลักก็เลือกแอสตราฯ ถ้าไม่โง่ก็โกง โง่คือดูไม่ออกว่าเขาผลิตไม่ได้ โกงคือรู้ว่าเขาทำไม่ได้ จะได้ไปเอายี่ห้ออื่นมา สุดท้ายคว้าซิโนแวค ทำไมไม่เป็นไฟเซอร์ก็เพราะเป็นของจีน ผู้ถือหุ้นไปมาค้าขายสะกิดกันได้”
นายสุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนไฟเซอร์มีกฎหมายห้ามติดสินบน ตอนคว้าซิโนแวคล็อตแรกพอรับได้ แต่พอล็อตอื่นๆ ทำไมต้องเป็นซิโนแวคอีก บอกซื้อจีทูจีไม่มีเสียภาษี สุดท้ายซิโนแวคจ่ายแว็ตเพียบแถมแพงว่ายี่ห้องอื่นด้วย ที่น่าสงสัยสุดคือสั่งซื้อหลายล็อต แล้วยังกันท่าเอกชนจัดซื้อวัคซีนอีกโดยออกกฎเพิ่มขั้นตอน แล้วยังไปบวกราคาอีก เอกชนไม่ตาย แต่ชาวบ้านตาย
นายสุทิน อภิปรายอีกว่า แม้แต่ท้องถิ่นก็ยังห้ามจัดซื้อเอง พอถูกด่าหนักเข้าก็อนุญาตแต่ต้องผ่าน อย.ถามว่ากี่ปีถึงจะผ่าน พอมีซิโนฟาร์มที่นำเข้าจากราชวิทยาลัยฯ คนก็แห่จองกันใหญ่ แต่กว่าจะได้ก็ช้า เพราะใช้ขั้นตอนราชการไปกันเขาอีก เป็นเทคนิคการตลาดหวังระบายซิโนแวคให้ทั่ว แถม ครม.อนุมัติจัดซื้อแบบวาระเร่งด่วน เป็นวาระลับ เป็นเพราะเบิกงบซื้อซิโนแวคมา 17 เหรียญสหรัฐ แต่พอซื้อจริงราคาลดลงมาเหลือ 8 เหรียญสหรัฐ แสดงว่ามีส่วนต่าง
“ถามว่าส่วนต่างไปไหน รัฐมนตรีตอบว่าคืนคลัง พูดง่ายจัง พอขอดูหลักฐานว่า รมว.สาธารณสุขจ่ายเงินซื้อเท่าไร สุดท้ายก็ไม่มีหลักฐานมาแสดง ถ้าคิดแบบโง่ๆ ซื้อ 8 เหรียญสหรัฐฯ ก็มีส่วนต่างได้แสดงว่ากินสองต่อ พอไปดูเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซีย อินเดีย ฟิลิปปินส์ซื้อซิโนแวคแค่ 400 กว่าบาท ไทยซื้อ 500 บาท แล้วที่มาบอกไม่ให้ด้อยค่าวัคซีนเพราะจีนคือมิตรประเทศ แล้วทำไมไม่ซื้อซิโนฟาร์มซึ่งเป็นของจริงของรัฐ ถ้าเป็นมิตรมานาน ทำไมขายให้เราแพงกว่า แถมรัฐยังออกข้อกำหนดปิดปากคนไม่ให้วิจารณ์ ทำไมปกป้องเขาจัง”
นายสุทิน กล่าวอีกว่า ถามว่าใครด้อยค่าซิโนแวคกันแน่ ตนหรือ ส.ส.พูดใครจะเชื่อ แต่คนที่พูดคนแรก คือ WHO ต่อมาคือหมอและบุคลากรทางการแพทย์ ถามว่ามีหมอคนไหนเรียกร้องให้ฉีดซิโนแวคให้ด่านหน้าบ้าง คนที่ด้อยค่าคือนายกฯนั่นแหละ วันแรกที่ต้องฉีดหนีเลย ถามว่าท่านฉีดซิโนแวคมั้ย รัฐมนตรีฉีดซิโนแวคหรือไม่ ได้ข่าวว่าแอบไปฉีดไฟเซอร์ด้วย
“ตลอด 2 วัน การอภิปรายรัฐมนตรีให้หมอมาแถลงเต็มเลย แต่ขอถามนายกฯ รัฐมนตรี อธิบดีและหมอที่แถลงข่าวว่าถ้าไม่ได้ทุจริต จะดิ้นออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทำไม เจาะจงให้ผู้ที่จัดหาวัคซีนเสียด้วย พอสังคมท้วงติงก็แก้เหลือแค่ข้าราชการ หากท่านไปเป็นเครื่องมือให้นักการเมือง แล้วมาออกกฎหมายแบบนี้ พวกตนทำให้ไม่ได้ ดังนั้นเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาคือท่านทุจริตซื้อวัคซีน ค้าความตาย”
นายสุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนชุดตรวจเอทีเคก็เป็นเวรกรรมของคนไทย จะซื้อ 8.5 ล้านชุด งบพันกว่าล้านบาท คนไทยดีใจไม่ต้องรอคิวตรวจ แพทย์ชนบทก็เสนอ อภ.ว่าต้องใช้สเปกผ่าน WHO แม่นยำ 96% ขึ้นไป แต่ฝ่ายการเมืองต่อรองเหลือความแม่นยำต่ำกว่า 90% สุดท้ายก็ไม่ต้องมี WHO รองรับ ความแม่นยำก็ต่ำลง ได้ของเลอปู้ของจีนอีกแล้วในราคา 70 บาท แต่ต่างประเทศซื้อแค่ 35 บาท แล้วมาแก้ตัวว่าบวกค่าจัดส่ง บวกอะไรตั้งครึ่งหนึ่ง
“นี่ขนาดซื้อเป็นล็อตใหญ่ ไม่ได้ลดเลยหรือแล้วจะให้คิดอย่างไร การบริหารจัดการมีแต่เรื่องไม่ชอบมาพากล ดังนั้นถ้าคนตายเพราะทำสุดความสามารถ แต่ถ้าคนตายเพราะโกงแบบนี้ แล้วผู้แทนจะนิ่งเฉยได้อย่างไร นอกจากนี้ท่านยังโกงอย่างอื่นที่ไม่ควร เช่น โกงซื้อเรือดำน้ำทั้งที่ควรเอาไปซื้อเครื่องช่วยหายใจ ซื้อชุดตรวจ”
นายสุทิน อภิปรายอีกว่า เหตุแห่งความตายของชาวบ้านคือความโอหังคลั่งอำนาจ ตั้งแต่ท่านยึดอำนาจ ทำการเมืองพิกลพิการ ออกกฎระเบียบ ใช้ความรุนแรงปราบผู้ชุมนุม ฝ่ายค้านถึงไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.เพื่อสกัดความโอหังคลั่งอำนาจ สำนึกถึงประชาชนของท่านช่างบางเบา คนตายมากมายท่านไม่สนใจ ชาวบ้านถึงถูกทอดทิ้ง นี่คือความไร้ความรับผิดชอบ
“ท่านพูดว่าอะไรก็ดีหมด แถมชอบโยนความผิดให้คนอื่นเป็นประจำ ผู้นำประเทศอื่นแสดงสปิริตลาออกเมื่อแก้โควิดไม่ได้ แต่ของเราไม่ออก ไม่ยุบ ไม่ปรับ ความรับผิดชอบของท่านมีอย่างเดียวคือท่านเสียใจ มันได้หรือ ดังนั้นเหตุแห่งความตายทั้งหมดที่กล่าวมาชาวบ้านได้ลงมติไปแล้ว ที่สำคัญที่สุดความไมไว้วางใจลามไปถึงพรรคท่าน บ้านท่านแล้ว ท่านจะทำอย่างไรที่จะซื้อความไว้วางใจสมาชิกของท่าน วิกฤตวันนี้แก้เฉพาะหน้าคือวัคซีนต้องพอ ชุดตรวจต้องได้ ถ้ายังมีรัฐบาลชุดนี้ พวกตนไม่ได้ ชาวบ้านไม่ได้ ต้องเปลี่ยนรัฐบาล”
นายสุทิน กล่าวต่อว่า มาถึงตรงนี้ต้องขอเปลี่ยนรัฐบาลเพื่อประชาชน เข้ามาแก้โควิดให้รอดจากความตาย ความอดอยาก แล้วท่านจะให้หรือไม่ หากท่านไม่ออก พวกตนก็ทำสุดความสามารถแล้ว ก็หวังจากพรรคร่วม ท่านก็รู้ว่าชาวบ้านอยากได้อะไร เป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้วที่ท่านมีโอกาสแก้ตัว ท่านยกมือไม่เอานายกฯ จบ ให้ของขวัญชิ้นสำคัญกับชาวบ้าน หากยังยกมือหนุน คดีอาญามีคำเปรียบเทียบว่ามีโจรวิ่งเข้าบ้านเท่ากับให้ที่หลบซ่อน โดนคดีอาญาด้วย ที่นี่คือศาลประชาชน
“เมื่อประชาชนไม่เอา แต่ท่านยังเอา ถือว่าท่านประเมินต่ำ ผมยังมีความหวังลึกๆ ว่าประชาชนจะดลใจท่าน จะดีจะเลวคนมาจากการเลือกตั้งต้องคิดถึงประชาชน ผมมีความหวังกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะใกล้เลือกตั้งพวกเรากำลังจะเดินขึ้นศาลประชาชนด้วยกัน แต่ความหวังพังเมื่อวานที่ชั้นสองชั้นสาม และวันนี้มีภาพให้เห็นไปทั่วโซเชียล ประชาชนหมดหวัง”
“ความหวังที่ผมมี เพื่อน ส.ส.มี ประชาชนมี หมดแล้ว แม้แต่ท่านประธานที่จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน เพราะเป็นการทำลายประชาธิปไตย เหยียบย่ำศักดิ์ศรีรัฐสภา แต่วันนี้ใจมันรับไม่ได้ ฝ่ายค้านทุกชีวิตรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” นายสุทิน ระบุ
จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 20.23 น.และนัดลงมติในวันที่ 4 ก.ย.เวลา 10.00 น.
