วันชัย เผย ส.ว.สัญญาณแรงโหวตคว่ำร่างแก้รธน.วาระที่ 3 ชี้ ไม่ใช่เพื่อประชาชน คาดถึงผ่านได้ อาจไม่ได้ใช้ เหตุติดกรอบเวลา-การเมืองแรง
วันที่ 6 ก.ย.2564 ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่) แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง ในวาระที่ 3 วันที่ 10 ก.ย.นี้ ว่า ตั้งแต่การพิจารณาวาระ 2 มีสัญญาณอยู่แล้ว ถ้าวันนั้นไม่มีการปรับปรุงแก้ไขในบางบทหรือบางมาตรา อาจไม่ผ่านการพิจารณาในวันนั้น
อีกประการหนึ่งสังเกตได้ว่า ส.ว.งดออกเสียงจำนวนมาก แม้ส.ว.ส่วนหนึ่งจะไม่ลงคะแนน เขาก็ชนะอยู่แล้ว เพราะเป็นการใช้เสียงข้างมากปกติ ดังนั้น ส.ว.ส่วนใหญ่จึงวางท่าทีแบบกลางๆ ไว้ และตัดสินใจอีกครั้งวันที่ 10 ก.ย.
นายวันชัย กล่าวต่อว่า หลังลงคะแนนวาระ 2 ส.ว.ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกันตลอดว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองและนักการเมืองล้วนๆ ไม่ได้เป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้น เราเห็นว่าหากระบบแบบนี้มีข้อบกพร่อง ไม่ได้แก้ไขเพื่อเดินหน้าแต่แก้ถอยหลัง
จนวันนี้ก็มีหลายกลุ่มพูดคุยกันว่าจะรับหรือไม่รับ และเชื่อว่าวันที่ 9 ก.ย.จะชัดเจน เท่าที่ตนติดตาม มีสัญญาณบางอย่างบ่งชี้ว่าอาจจะไม่รับร่างครั้งนี้ก็ได้ ฉะนั้น ต้องรอดู เพราะแต่ละวันจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด
“ผมเห็นว่าสัญญาณไม่ปกติ เริ่มปรากฏในกลุ่มส.ว.ด้วยกัน แม้กระทั่งช่วงเช้าที่ผมมาถึงสภา ก็มีหลายกลุ่มนำเรื่องนี้มาหารือกัน ซึ่งจะให้ตอบสังคมว่าผ่านหรือไม่ผมไม่กล้ายืนยัน เหมือนกับวาระที่ 2 เริ่มมีปัญหาอยู่แล้ว ฉะนั้นเขาจึงบอกว่าให้ผ่านๆ ไปก่อน แต่จะผ่านหรือไม่ เชื่อว่าส.ว.จะตัดสินใจยืนข้างความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง” นายวันชัย กล่าว
ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)มีปัญหากันช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะส่งต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เกิดแรงกระเพื่อมไปทุกฝ่าย แม้จะไม่ได้มีผลโดยตรง แต่ก็เกิดแรงกระเพื่อมในการเปลี่ยนแปลงเรื่องการโหวตได้
เมื่อถามว่าสัญญาณที่บอกว่าจะไม่ผ่าน มาจากรัฐบาลเองหรือไม่ เพราะมีกระแสว่าในการประชุมพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกกับลูกพรรคว่า ส.ว.จะโหวตคว่ำรัฐธรรมนูญในวาระ 3 นายวันชัย กล่าวว่า ไม่มีสัญญาณมาจากฝ่ายการเมืองหรือจากผู้มีอำนาจ เท่าที่ตนติดตามคือสัญญาณชัดๆ จาก ส.ว. อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูจากการแลกเปลี่ยนของส.ว. มาจากความรู้สึกนึกคิด และสัญญาณนี้พบว่า จะไม่รับร่างแรงพอสมควร
เมื่อถามว่าในวาระ 2 ส.ว.จำนวน 100 กว่าคนโหวตรับร่างมาแล้ว แต่ในวาระ 3 อาจคว่ำร่างนั้นจะตอบคำถามสังคมอย่างไร นายวันชัย กล่าวว่า เชื่อว่าตอบได้ แต่จะตอบอย่างไรเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลเราพูดกันมาแล้วว่าการแก้ไขครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อประชาชน แต่เพื่ออำนาจและความได้เปรียบทางการเมืองล้วนๆ
นายวันชัย กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ แม้จะผ่านไปได้แต่อาจจะไม่ได้ใช้ เพราะยังมีขั้นตอนที่นายกฯ ต้องรอ 5 วัน และต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยให้เสร็จภายใน 30 วัน อีกทั้งยังมีขั้นตอนการทูลเกล้าฯ เชื่อว่าใช้เวลาอย่างน้อย 30-60 วัน และการเมืองตอนนี้มีความเปลี่ยนแปลงแรงพอสมควร
ตนมองว่าแม้จะรอดในวาระ 3 แต่คิดว่าไม่ทันใช้ อาจจะไปติดที่อื่นหรือที่ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ที่ต้องวินิจฉัยว่าการแก้ไขชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งมีกระบวนการที่ฝ่ายหนึ่งตั้งป้อมจะร้องอยู่แล้ว และมีประเด็นที่น่าคิดอยู่เหมือนกัน
เมื่อถามว่าส.ว.จะร่วมยื่นศาลรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ ส.ว.แทบจะไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง เกิดแรงกระเพื่อมในพรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทยก็ไม่เอาด้วยตั้งแต่ต้น ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้หลายส่วนอาจทำให้เกิดการสะดุดและหยุดชะงัก
