ตร.บางเขน นำตัว ทราย-สมยศ กับพวกพร้อมความเห็นควรฟ้อง ผิด112-116 ชุมนุมปลดอาวุธศักดินาเมื่อปีที่เเล้ว อัยการนัดฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ 27 ก.ย.นี้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.ย. 2564 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.บางเขน นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายอานนท์ นำภา กับพวก รวม 8 คน ในความผิดมาตรา 112 ฐานร่วมกันดูหมิ่นสถาบัน, ยุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 เเละข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

จากกรณีชุมนุมเมื่อวันที่ 29 พ.ย.63 ตั้งเเต่เวลา 15.00-22.00 น. หัวข้อ “ปลดอาวุธศักดินา” ซึ่งเดิมได้ประกาศว่าจะมุ่งไปที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เเต่ภายหลังย้ายมายังกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตบางเขน เหตุเกิดที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนนำสำนวน พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 8 เรียงลำดับคือ นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า, น.ส.พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ, น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือแหวน พยาบาลอาสา และน.ส.อินทิรา เจริญปุระ หรือทราย

ในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงมาตรา 112 และมาตรา 116 มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองและข้อหาอื่นฯ ส่วนน.ส.อินทิรา จะมีข้อหาร่วมชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มมาอีก
ภายหลังรายงานตัวเสร็จแล้ว พนักงานอัยการได้นัดฟังคำสั่งคดีวันที่ 27 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

ในวันนี้ มีน.ส.อินทิรา หรือทราย, นายสมยศ กับพวกจำนวน 5 คน เดินทางมารายงานตัวกับพนักงานอัยการ อีก 3 คน คือ นายพริษฐ์, นายอานนท์ และนายพรหมศร ขณะนี้ยังถูกควบคุมอยู่ในเรือนจำ

ด้านน.ส.อินทิรา กล่าวว่า คดีนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่นายอานนท์ นัดชุมนุมกันที่กรมทหารราบ 11 เมื่อปีที่แล้ว ส่วนทราย แค่ไปนั่งกินข้าวกับหน่วยพยาบาลอาสา ซึ่งไม่ควรจะโดนคดีหมิ่นเบื้องสูง มาตรา 112 ก็ยังงงเหมือนกันว่าเอาข้าวไปแจกผู้ชุมนุม เข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างไร แต่ก็มีโพสต์เฟซบุ๊กชักชวนให้มาร่วมชุมนุมในวันดังกล่าว

ส่วนตัวมองว่าเป็นคดีที่จุกจิก และรู้สึกแย่ตรงที่เงินประกันค่อนข้างสูง โดยเป็นเงินจากกองทุนราษฎรที่ช่วยกันบริจาค ควรนำไปช่วยเหลือต่อสู้คดีอื่นมากกว่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน