ชาดา จวก ประยุทธ์ ไม่สมกับชายชาติทหาร ขาดจิตวิทยามวลชน รวบอำนาจแก้โควิด-9 ไม่เคยออกมาดูปัญหา แนะใครเตือน ช่วยทบทวน ไม่ใช่สวนกลับ

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2564 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย(ภท.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุถึงการทำงานและการแก้ปัญหาโควิด-19 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมว่า อยากบอกประชาชน และใครก็ได้บอกนายกฯด้วย โควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ทุกรัฐบาลในโลกไม่เคยมีประสบการณ์ ไม่มีทฤษฎี ไม่มีสูตรแก้ปัญหา หมอที่อยู่ข้างกายนายกฯ ไม่ว่าหัวหงอกหัวดำ ก็ไม่เคยผ่านมาทั้งนั้น

“แต่สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรู้คือ ท่านขาดจิตวิทยามวลชน ไม่ออกไปเยี่ยมประชาชนตามชุมชนต่างๆในกทม. และไม่เคยออกมารับรู้ปัญหาด้วยตาด้วยตัวเอง ท่านเวิร์ก ฟรอม โฮม ผมจะบ้าตาย ทีมที่ปรึกษาคนใน แนะนำให้ไปโดดน้ำ… ผู้นำไม่ใช่อยู่กับบ้าน ไม่สมกับเป็นชายชาติทหาร ต้องออกมาดูปัญหา ออกมารับรู้เพื่อเห็นสภาพความเป็นจริง นายกฯ ต้องรู้ว่าระบบราชการไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไข้ปัญหาขนาดใหญ่ อุทกภัย วาตภัย และโรคระบาด” นายชาดา ระบุ

นายชาดา ระบุด้วยว่า ขอยกตัวอย่าง สมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ น้ำท่วมใหญ่ปี 54 นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นพระเอก ประชาชนมาบริจาคเป็นร้อยล้าน แต่ไม่บริจาคให้รัฐบาล สมัยพล.อ.ประยุทธ์ น้ำท่วมภาคอีสานเมื่อไม่นานมานี้ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เป็นพระเอก โรคระบาดครั้งนี้ มูลนิธิเส้นดายเป็นพระเอก

ไทยเป็นประเทศเดียวในโลกก็ว่าได้ที่ประชาชนออกมาช่วยประชาชน หน่วยงานของรัฐทุกระบบ ที่ไม่ใช่บุคลากรทางสาธารณสุข บางหน่วยงาน บางคน ไม่ร่วมแรงร่วมใจ แต่ก็มีจำนวนมากที่เหน็ดเหนื่อย แต่ระดับอธิบดีแทบทุกหน่วย ทำตัวเป็นปกติ

นี่คือปัญหาของระบบราชการไทย ที่ไม่รู้จักคำว่าลงแขกช่วยเหลือกัน เหมือนกับร่างกายมนุษย์ที่ใช้งานแค่ 2-3 นิ้ว เมื่อไม่ได้ช่วยกันทั้งหมด งานย่อมมีปัญหาแน่นอน ส่วนวัคซีนซิโนแวค จีนให้ความสำคัญ ช่วยเหลือเราในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ประเทศตะวันตก ใครบ้างมาดูเเลเราในสภาพตอนนั้น บางคนโจมตีรัฐบาลจีน แต่ตัวเองฉีดวัคซีนเข็มแรกของจีน ก่อนใครทั้งหมด รอดมาจนถึงทุกวันนี้ก็มีเยอะ ยังไปด่าเขา เนรคุณรึเปล่า

ที่สำคัญในกทม. ไม่มีสาธารณสุขจังหวัด และไม่มีสาธารณสุขอำเภอ กทม.รับมือไม่ไหว มหาดไทยก็นิ่งเฉย ปล่อยกทม.เหมือนเมืองซอมบี้ ศักยภาพกทม. เลยทำงานเหมือนคนโดดเดี่ยว

นายชาดา ระบุว่า ตนไม่ได้คิดโจมตีใคร นายกฯ ต้องมองคนที่ให้คำแนะนำผิดๆ บ้าง เช่น การรวบอำนาจตามกฎหมาย 30 กว่าฉบับ มาไว้ที่ ศบค. กลายเป็นทำงานคนเดียว ชุดเดียวกลุ่มเดียว กระทรวง กรมต่างๆ นิ่งเฉย อยู่ดีๆ ตัวใหญ่ขึ้น แต่คนช่วยทำงานไม่มีเลย ขาดความร่วมมือ ส่วนอื่นๆ ก็ถือว่าไม่ใช่หน้าที่

บารมีท่านเป็นนายกฯ มา 7-8 ปี ไม่ต้องเอาอำนาจตามกฎหมายมาถือไว้ ไร้ประโยชน์ ในทางกลับกัน ถ้านายกฯ ไม่ไปดึงอำนาจมา แต่บริหารจัดการให้กระทรวงนั้นไปรับผิดชอบเรื่องศูนย์พักคอย กระทรวงนี้ไปรับผิดชอบโรงพยาบาลสนาม อีกกระทรวงไปรับผิดชอบการขนส่งผู้ป่วยเป็นต้น นายกฯ คงไม่ต้องโดนด่ามากมาย

ตนอาจจะคิดผิดก็ได้ แต่วันนี้ จ.อุทัยธานี เตียงสนาม ศูนย์พักคอย คนป่วยเริ่มน้อย กำลังจะปิดบางส่วน ถ้านายกฯ รู้ข้อมูลอาจให้ จ.อุทัยธานี ช่วยเหลือคนป่วยจากที่อื่น อีกก 400-500 คน ที่อาการไม่หนัก นี่คือตัวอย่าง

ผมไม่ได้เก่งกาจ หรืออาจจะผิดก็ได้ แต่ผมคือคนที่อยู่ในระบบราชการมาพอสมควร จึงเขียนมาเป็นอีกหนึ่งความคิด อย่าโกรธกัน คนเราต้องทบทวนบ้างว่า อะไรมิตรแท้ ไม่ใช่ใครออกมาเสนอแนะอะไร ก็โดนสวนกลับ ทั้งที่พูดด้วยความจริงใจ ที่ผมพูดมาก็ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ว่าใคร อย่าได้โกรธเกลียดกัน” นายชาดา ระบุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน