พท.ลุยมอบสิ่งของ ช่วยชาวนนท์ หลังน้ำเอ่อล้นท่วมบ้าน “พงศ์เทพ” อัด “ประยุทธ์” ยกเลิกโครงการบริหารจัดการน้ำ “ยิ่งลักษณ์” ทำปชช.เดือดร้อนสาหัส จี้เยียวยาชาวสวนทุเรียน

เมื่อวันที่ 11 ต.ค.64 พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกฯ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานโซน 2 กรุงเทพฯ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคพท. นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ นายภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์ นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร นายวันชัย เจริญนนทสิทธิ์ นายมานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์ ส.ส.นนทบุรี นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา นายวัน อยู่บำรุง นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยคนรุ่นใหม่และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ลงพื้นที่น้ำท่วมมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่วัดเขียน​ ต.บางไผ่​ อ.เมือง​ จ.นนทบุรี

นายพงศ์เทพ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่าเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนได้รับความเสียหาย น้ำท่วมพื้นที่สวนทุเรียน จึงอยากให้รัฐบาลเยียวยาความเสียหายให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมตามความเสียหายจริง ขณะนี้ประชาชนได้รับผลกระทบ 2 ต่อคือ ผลกระทบจากโควิด-19 และน้ำท่วมเข้ามาซ้ำเติมให้การดำรงชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งจริงๆ แล้วประเทศไทยมีการศึกษาการบริหารจัดการน้ำท่วมน้ำแล้งมาทุกยุคทุกสมัย และมีผลการศึกษาออกมาชัดเจนผ่านการตั้งกองงานตรวจสอบแผนจากทุกหน่วยงาน จนออกมาเป็นแผนบริหารจัดการน้ำในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งน่าเสียดายที่แผนบริหารจัดการน้ำถูกยกเลิกไปโดยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ หากโครงการนี้ได้ดำเนินการต่อจนถึงปัจจุบัน ประชาชนจะไม่เจอปัญหาเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซากแบบนี้

นายพงศ์เทพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลตั้งรับกับปัญหาอย่างล่าช้า การเข้าไปช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ทันการณ์กับความเสียหายของประชาชน เนื่องจากตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจในปี 57 จนถึงปัจจุบัน มีเพียงการจัดเลือกตั้งนายก อบจ.แต่หลังจากนั้นไม่มีการจัดการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ ทั้งการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี นายก อบต.ผู้ว่าฯ กทม.และผู้ว่าเมืองพัทยา ทำให้ไม่มีผู้บริหารท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้งของประชาชน มาดูแลแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที จึงขอฝากคำถามไปถึงรัฐบาลว่ามีเหตุผลอะไรจึงถ่วงการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พี่น้องประชาชนประสบปัญหาเดือดร้อนขนาดนี้ หากเป็นสถานการณ์ปกติและมีผู้นำในท้องถิ่นที่ยึดโยงกับประชาชน คงแก้ปัญหาได้ทันท่วงที หากสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะปกติ คงไม่มีนายกฯ คนไหนทนอยู่ตำแหน่งต่อไปได้อย่างไม่ละอายต่อประชาชน
อยากรู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์จะครองอำนาจได้กี่เดือน ประชาชนอดทนกับพล.อ.ประยุทธ์มานาน ผ่านมา 7 ปี ใช้งบประมาณของประเทศชาติไปเยอะแยะ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ใช้งบได้เปล่าประโยชน์จริงๆ

นายจิรพงษ์ กล่าวว่า กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ใช้งบกลาง 3,200 ล้านบาทในการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำบรรเทาความเดือดร้อนของหลายพื้นที่ แต่จ.นนทบุรีได้รับงบประมาณน้อยมาก จึงอยากเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ยกเลิกการรวมศูนย์อำนาจ ควรกระจายอำนาจการบริหารจัดการให้ท้องถิ่นดูแลได้แล้ว ขณะที่แนวทางการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมของพล.อ.ประยุทธ์ยังไม่เพียงพอและไม่สะท้อนกับความเป็นจริง ซึ่งเทียบไม่ติดกับการเยียวยาในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เช่น การเยียวยาชาวนาที่นาข้าวเสียหาย พล.อ.ประยุทธ์เยียวยา 1,300 บาทต่อไร่ รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์เยียวยา 2,222 บาทต่อไร่ ส่วนค่าซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายจากน้ำท่วมพล.อ.ประยุทธ์เยียวยา 49,500 บาทต่อครัวเรือน รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์เยียวยา 240,000 บาทต่อครัวเรือน จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้อย่าด้อยค่าประชาชน เลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการตัดสินว่าประชาชนจะเลือกใครเป็นผู้นำประเทศ

น.ส.จิราพร กล่าวว่า การลงพื้นที่ของพรรคในครั้งนี้เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมเท่านั้น สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือการวางแผนระยะยาวเพื่อป้องกันปัญหา ที่ผ่านมา ส.ส.ของพรรคนำเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งเข้าหารือในการประชุมสภาหลายครั้ง และยังมีผลการศึกษาการบริหารจัดการน้ำในประเทศไทยจำนวนมาก ทั้งแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาลในยุคพรรคพท. หรือผลการศึกษาน้ำท่วมอีกหลายฉบับที่ศึกษาโดยคณะกรรมการวิสามัญ สภาฯ แต่พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยสนใจ หากเป็นผู้นำที่มีความจริงใจก็ควรหยิบผลการศึกษาเหล่านั้นนำไปปฏิบัติให้เกิดผลจริง พี่น้องประชาชนคงไม่ได้รับผลกระทบมากขนาดนี้ ตอนนี้ประเทศต้องการผู้นำที่เด็ดขาด เร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน