บิ๊กตู่ครวญ รู้โซเชี่ยลด่าเยอะ ไม่เคยโกรธ ย้ำทำให้ดีที่สุด เขินเจอพระครูกระเซ้า อีก 5 ปี จะนำทุเรียนไปฝาก ตร.เข้มหวั่นเกิดเหตุม็อบต้าน
เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2564 ที่โรงเรียนศรีแสงธรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบโคกหนองนา จ.อุบลราชธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวตอนหนึ่งระหว่างตรวจเยี่ยมแหล่งเรียนรู้พลังงานทดแทน โคกอีโด่ยวัลเล่ย์ ว่า รัฐบาลจะทำให้ดี ทำให้ต่อเนื่องและทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ ตนดีใจและชื่นใจ นี่คือการสร้างพลังจากท้องถิ่น ส่วนความเดือดร้อนปัญหาต่างๆ จะมอบให้รมว.มหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล โดยตนจะประสานให้ทั้งหมด เพื่อสร้างฐานการเรียนรู้และใช้ประโยชน์ไปด้วย เป็นการใช้บ้าน วัด โรงเรียนหรือเรียกว่า บวร
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอชื่นชมเด็กนักเรียนที่ได้ทุนการศึกษา ไปเรียนต่อที่เกาหลีใต้ ซึ่งมีหลายคนไปเกาหลีอย่าง ลิซ่า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะดูแลและขับเคลื่อนให้ฐานการเรียนรู้นี้ขยายต่อ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเด็กและเกิดประโยชน์กับชาวบ้าน
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ พบปะและมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนโรงเรียนศรีแสงธรรม โดยมีตัวแทนนักเรียนอ่านกลอนต้อนรับ จากนั้นนายกฯ กล่าวขอบคุณ พร้อมระบุว่า ถ้ามีเวลาจะแต่งกลอนตอบไปแล้ว
นายกฯ กล่าวกับนักเรียนว่า วันนี้ทุกเรื่องที่เป็นปัญหา ตนรับไปแล้ว ยืนยันจะดูแลให้ดีที่สุด เพราะเราเป็นรัฐบาล แต่ต้องทำให้ถูกต้อง เพราะมีกฎระเบียบกฎหมายต่างๆ ย้ำว่ารัฐบาลมีจุดมุ่งหมายทำอย่างไรให้ประเทศเดินไปข้างหน้า สิ่งที่วางไว้ยุทธศาสตร์ 20 ปีต้องเดินไปทุกปี ไม่ใช่วางไว้ 20 ปีจะอยู่กับที่ตามที่นายกฯ พูด มันไม่ใช่ จึงขอให้ทุกคนเข้าใจและเรียนรู้ว่ายุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้านคืออะไร ซึ่งถือเป็นโจทย์เท่านั้น แต่มีแผนแม่บทและแผนงานโครงการที่ต้องทำต่อเนื่องทุกปี และรวมผลงาน 5 ปีว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่านายกฯ จะทำให้ดีที่สุด ครูเปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่ 2 ซึ่งสังคมเราจะดีขึ้นได้เริ่มจากครอบครัว ต่อมาคือครูอาจารย์ ผู้อบรมสั่งสอน และเราอยู่ในกลุ่มคนที่คิดดีทำดีไปด้วยกัน สิ่งเหล่านี้คิดว่าไม่มีทางไม่ก้าวหน้า และวันนี้อยากให้ตั้งเป้าไว้ว่าเราอยากเป็นอะไร อยากเป็นทหาร อยากเป็นตำรวจหรือข้าราชการ ต้องแข็งแรง กินข้าวเยอะๆ ออกกำลังกายให้ตัวสูงๆ คนไหนอยากเป็นครู พยาบาลเป็นได้หมด
“วันนี้ลุงอยู่ ลุงทำให้ วันหน้าข้าราชการต้องเข้มแข็งอยู่แล้ว วันนี้โซเชี่ยลมีเดีย เป็นสิ่งที่เป็นปัญหาทั้งโลก เปิดไปดูไม่เคยโกรธ อาจจะว่าลุงเยอะหน่อย แต่ลุงรู้ว่าลุงทำอะไรอยู่ ไม่ได้ทำอะไร ลุงไม่เคยโกรธอยู่แล้ว เพราะห้ามยาก” นายกฯ กล่าว
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เยี่ยมชม พร้อมพบปะกับชาวบ้านในบูทกิจกรรมต่างๆ พร้อมถ่ายรูปอย่างอารมณ์ดี รวมทั้งได้แนะนำรัฐมนตรีเป็นระยะ และรับปากว่าจะทำถนนหนทางต่างๆ ให้กับชาวบ้าน
โดยช่วงหนึ่ง นายกฯ ได้สวมงอบชาวนาและหาบสาแหรก โพสต์ท่าถ่ายรูป รวมทั้งกล่าว “ขอบคุณนะจ๊ะ” หลังชาวบ้านบอกให้สู้ๆ
ต่อมา นายกฯ พร้อมคณะ ขึ้นรถรางเพื่อเยี่ยมชมฐานการเรียนรู้ต่างๆ ภายในศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบโคกหนองนา โดยช่วงหนึ่งพระครูวิมลปัญญาคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีแสงธรรม ระบุว่า ได้ปลูกทุเรียนไว้ประมาณ 50 ต้น คาดว่าอีก 5 ปีคงจะได้กินผล แล้วจะเอาไปฝากนายกฯ ซึ่งเชื่อว่าคงจะได้เจอกันอีก 5 ปีแน่นอน
เมื่อพูดถึงตรงนี้ทำให้บรรดารัฐมนตรีที่ไปด้วย ต่างหัวเราะชอบใจ ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ แบบสงวนท่าที ก่อนกล่าวว่า “ขอบพระคุณจ้ะ”
ก่อนเดินทางกลับ ได้มีกลุ่มชาวบ้านมาถือป้ายสนับสนุนและให้กำลังใจ อาทิ “ลุงตู่สู้สู้” “เรารักลุงตู่นะ” ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูและมินิฮาร์ท และกล่าวขอบคุณชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว ระบุว่า ขอให้ทุกคนร้องเพลงรักกันไว้เถิดไว้
อย่างไรก็ตาม ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่สนใจของนักเสี่ยงโชคเช่นเคย โดยได้ถ่ายรูปและจดทะเบียนรถของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ใช้ลงพื้นที่ครั้วนี้คือ กฉ 1111 ศรีษะเกษ นำไปเสี่ยงดวงกันอย่างคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้นายกฯ และคณะ จะมีกำหนดการเดินทางมาถึง อ.วารินชำราบ ในเวลา 14.45 น. แต่มีการเตรียมกำลังตำรวจในพื้นที่จ.อุบลราชธานี ทั้งในและนอกเครื่องแบบ 2 กองร้อย กระจายประจำจุดต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุการณ์วุ่นวาย หลังมีการแจ้งว่าจะมีการนัดรวมตัวเคลื่อนไหว ที่บริเวณศาลหลักเมืองอุบลราชธานี ในเวลา 13.00 น. นำโดยว่าที่ร.ต.ฉัตรชัย แก้วคำปอด หรือทนายแชมป์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลฯ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แกนนำม็อบอุบลปลดแอก ก่อนจะเดินทางมาที่ศาลาประชาวาริน ซึ่งเป็นจุดที่ นายกฯและคณะ จะรับฟังปัญหาของประชาชน และมอบถุงยังชีพ
ทั้งนี้ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์ เหมือนการลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ถูกมวลชนออกมาต่อต้านจนเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ เพราะถือเป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคฝ่ายค้าน อาจเกิดการต่อต้านจากคนในพื้นที่ได้
