“ภูมิธรรม” แจงเปลี่ยนธีม “เพื่อไทย” เพื่อความสดใหม่ รับประชุมใหญ่ของพรรคสิ้นเดือนตุลาคม ตัดปัญหาพวกลอกเลียนแบบ หัวใจสำคัญ อยู่ที่ “วันพรุ่งนี้”
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. นภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับเปลี่ยนแคมเปญเพื่อการประชุมใหญ่พรรคพท. รวมถึงการปรับโทนสีของพรรคที่ใช้สีแดงสด พร้อมเขียนชื่อพรรคด้วยลายมือว่า เราต้องการเปลี่ยนลุคใหม่ของพรรค เพราะในโลโก้ เสื้อ และแผ่นป้ายต่างๆ ของพรรคมีสีอื่น ซึ่งมีหลายพรคการเมือง และมีบางคนบางส่วนไปลอกเลียนแบบ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ เราก็เลยอยากจะเปลี่ยนลุคให้มีสีที่สดใสขึ้น เพื่อสะท้อนถึงความเฟรช ความสดใหม่มากขึ้น นอกจากนี้สีแดงก็เป็นสีที่สะท้อนจิตวิญญาณของพรรคเรื่องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ส่วนตัวหนังสือที่ทำเป็นตัวเขียนก็เพื่อให้เป็นการสื่อสารที่ดูง่าย สบายๆ ไม่เป็นทางการมาก แต่ทำให้รู้สึกว่าใหม่
ภูมิธรรม กล่าวต่อว่า นี่เป็นเพียงการเปลี่ยนธีมในการประชุมใหญ่ของพรรค พท.เท่านั้น ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่เรื่องสี แต่เป็นคำว่า “วันพรุ่งนี้” ในนั้นต่างหาก ที่เราต้องการสื่อความหมายในการหาอนาคต เราเห็นว่าประเทศไทยที่ผ่านมาสำหรับพรรคพท.เรา เรามีวันวาน วันนี้ และพรุ่งนี้ สำหรับประเทศ วันวาน เราประสบความสำเร็จในการเป็นพรรคการเมือง ซึ่งได้สร้างนโยบายที่สร้างการกินดีอยู่ดี สร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้พี่น้องประชาชนมากมาย แต่วันนี้ 7 ปีภายใต้การรัฐประหารเรายากลำบาก เรามีทุกข์ เรามีวิกฤติทั้งวิกฤติโรคระบาด เศรษฐกิจ และภัยธรรมชาติ ซึ่งภายใต้รัฐบาลที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ พท.เรามองอดีต มองปัจจุบัน เราจึงอยากเห็นอนาคตที่กลับมารุ่งเรืองเหมือนที่รัฐบาลของพรรคพท.ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยทำมา นอกจากนี้การสื่อสารธีมนี้ออกไปเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าเราเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียว ที่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในครั้งหน้าทั้ง 400 เขต 100 ปาร์ตี้ลิสต์โดยไม่มีพรรคย่อย ไม่มีพรรคไหนอีกทั้งสิ้น
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคพท. ประกาศแคมเปญการประชุมใหญ่ช่วงนี้เพื่อชนกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่ไปประชุมใหญ่ที่จ.ขอนแก่นพอดี ภูมิธรรม กล่าวว่า คงเป็นเรื่องบังเอิญ จริงๆแล้วอีสานเป็นพื้นที่ที่เรามีผู้แทนมากที่สุดอยู่แล้ว และ จ.ขอนแก่นก็เป็นจังหวัดที่เป็นใจกลาง การคมนาคมสะดวก ดังนั้นการจัดประชุมที่จ.ขอนแก่นจึงสะดวก และเราเองก็ให้ความสำคัญกับพื้นที่อีสานด้วย และขอนแก่นเองก็เป็นจุดเชื่อมต่อกับหลายจังหวัดในอีสาน
เมื่อถามถึงกรณีที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก.ก. ประกาศสู้ในพื้นที่ภาคอีสานกับพรรค พท. ภูมิธรรม กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกพรรคการเมืองมีสิทธิประกาศได้ แต่ก็ต้องถามหัวใจคนอีสาน ทุกคนมีสิทธิที่จะลงสมัคร ส่วนจะได้เท่าไหร่ก็อยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
