จากกรณีกระแสข่าว “ผู้ช่วย สส.” ของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งมีจุดยืนตรงข้ามรัฐบาลได้พาพนักงานบางคนของบริษัท บริลเลียนท์ อัลไลแอนซ์ ไทย โกลบอล จำกัด มาเคลื่อนไหวเรียกร้องการเยียวยาจากภาครัฐและกระทรวงแรงงาน โดยล่าสุดยังประกาศจะมาเรียกร้องอีกรอบที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 08.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม 2564

ความคืบหน้า วันที่ 18 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า กรณีนี้ รัฐบาลสั่งการกระทรวงแรงงานดำเนินการช่วยเหลือในส่วนที่กฎหมายกำหนดไปเรียบร้อย ส่วนขั้นตอนที่จะเรียกร้องให้ใช้งบกลางมาจ่ายนั้นขอชี้แจงว่าคนที่ปลุกกระแสพาคนมาเรียกร้องเป็น ผู้ช่วยสส. พรรคตรงข้ามรัฐบาล มีจุดประสงค์อื่น อย่าเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเล่นเกมส์การเมือง

“ถ้าอยากรู้ว่า กฎหมายทำได้อย่างไร แค่ไหน ก็เชิญผมไปชี้แจงกรรมาธิการแรงงาน ที่มีสส.ของคุณอยู่ในคณะสิ ผมจะไปตอบคำถามด้วยตัวเอง แต่ถ้าบุกมากระทรวงเหมือนเดิม คุยกันไม่รู้กี่ครั้ง แกนนำแกล้งไม่เข้าใจ หรือไม่รู้ข้อกฎหมายดีพอ ถ้าไม่เข้าใจกฎหมายในประเทศไทย แล้วจะอยู่กันอย่างไร ผมขอบอกว่างบกลางมีข้อกำหนดกฎหมายในการใช้ ไม่ใช่นายจ้างเลิกจ้างให้ใช้งบกลาง แล้วแบบนี้ ใครที่เป็นนายจ้างทิ้งลูกจ้าง รัฐบาลก็ต้องมาจ่ายค่าจ้างเงินเดือนค้างจ่ายแทนนายจ้างทุกราย ผมว่าไม่ถูกต้องครับ” นายสุชาต กล่าว

รัฐมตรีแรงงาน ระบุด้วยว่า ตนอยากบอกแกนนำว่าควรคิดแล้วเอาความจริงมาคุยกัน ถ้าจะเอาแต่ใจทุกอย่างคงไม่ได้ ถ้าที่ผ่านมากระทรวงฯ ไม่ช่วยเหลือในส่วนเงินกองทุนว่างงานและกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างจึงค่อยมาว่ากัน อยากฝากถึงพี่น้องแรงงานที่โดนพวกแกนนำพามา อยากจะบอกว่าเขาพาพวกท่านมาแล้วถ่ายรูป จากนั้นก็เอาภาพไปเก็บเงินจากพรรคการเมืองหนึ่ง ดังนั้นพี่น้องผู้ใช้แรงงานจะเป็นเครื่องมือให้คนกลุ่มนี้ถ่ายรูปเบิกเงินเข้ากระเป๋าตัวเองอีกหรือ

ก่อนหน้านี้ นายชาญศิลป์ ทรัพย์โนนหวาย ประธานกลุ่มแรงงานเพื่อสังคม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวตนในฐานะประธานกลุ่มแรงงานเพื่อสังคมได้ติดตามเหตุการณ์ เพราะมีกลุ่มแรงงานจำนวนหนึ่งมาร้องเรียนและขอความช่วยเหลือ ซึ่งได้ประสานกระทรวงแรงงาน และให้ความช่วยเหลือจ่ายเงินสงเคราะห์จากกองทุนลูกจ้าง และเงินประกันการว่างงานเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการยื่นฟ้องต่อศาลให้บริษัทจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นเรื่องในชั้นศาล ชั้นพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องติดตามจับกุมผู้บริหารบริษัทมาดำเนินคดี ต่อไปไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระทรวงแรงงานแล้ว อย่างไรก็ตามมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งนำข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนรอบด้านไปบอกกับแรงงานที่เดือดร้อน ให้มาเรียกร้องกระทรวงแรงงานให้ของบกลาง 243 ล้านบาท ที่เป็นเงินที่บริษัทต้องจ่าย ให้กระทรวงแรงงานทดรองจ่ายไปก่อน ทั้งที่ไม่มีระเบียบอะไรรองรับ สะท้อนให้เห็นว่ามีจุดประสงค์แอบแฝง ใช้ความเดือดร้อนของลูกจ้างมาเป็นเครื่องมือเคลื่อนไหว จึงอยากเตือนลูกจ้างว่าไม่ควรหลงเชื่อ

นายชาญศิลป์ ระบุว่า ทุกอย่างต้องดูตามระเบียบกฎหมาย ปัจจุบันกระทรวงแรงงานช่วยเต็มที่แล้ว จ่ายเงินชดเชยให้เร็วกว่ากรณีอื่นๆด้วยซ้ำ แต่มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้เป็นผู้เดือดร้อน แต่เป็นนักกิจกรรมที่หากิจกรรมทำ อยากให้มีภาพว่ากระทรวงแรงงานทำงานไม่มีประสิทธิภาพ จึงขอให้หยุดอย่าเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นเครื่องมือ ซึ่งแรงงานพันกว่าคนเขารู้ทัน มีเพียงส่วนน้อยไม่ถึงร้อยคนเท่านั้นที่หลงเชื่อ จึงขอเตือนว่าอย่าหลงไปเป็นเครื่องมือสร้างผลงานให้กับใคร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน