เปิดตัว ‘หมอเลี้ยบ’ นั่ง ผอ.พรรคเพื่อไทย คนใหม่ สานเจตนารมณ์ ไทยรักไทย-พลังประชาชน ฝันใหญ่ยกระดับนโยบายขั้นกว่า “30 บาท รักษาทุกโรค”

วันที่ 28 ต.ค.64 ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 พรรคเพื่อไทย ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดขอนแก่น ในหัวข้อ “พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” ซึ่งจะเป็นการปลุกความหวัง คืนความฝันให้พี่น้องประชาชนอีกครั้ง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่้งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย คนใหม่ กล่าวถึงความฝันตลอดระยะเวลา 20 ปีบนเส้นทางการเมืองว่า แต่ละคนมีความฝัน ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกัน และอาจมีใน 2 แบบ หนึ่งคือฝันเพื่ออนาคตตัวเอง และสองคือฝันเพื่ออนาคตงดงามของเพื่อนมนุษย์

คนที่ฝันเพื่ออนาคตเพื่อนมนุษย์ ที่รู้จักมาในชีวิตมี 2 คน คนแรก คุณหมอสงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ที่มีความฝันจะสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้คนไทย ทุกวันนี้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาท ได้เปลี่ยนชีวิตคนไทยไปกว่า 40 ล้านคน และส่งต่อความฝันให้คนทั้งโลกนับพันล้านคน และคนที่สอง ดร.ทักษิณ ชินวัตร ฝันอยากหยิบยื่นโอกาสชีวิตที่ดีให้คนอื่น เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีจึงไม่ใช่แค่ตาต้องดูดาว แต่เท้าต้องติดดิน กินคั่วแมงกุดจี่ และสองคนนี้ แม้ฝันจะต่างกันแต่สิ่งที่เหมือนกันคือ การฝันโดยใช้หัวใจ การใช้หัวใจสร้างความฝันย่อมเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนส่วนใหญ่ไปตลอดกาล

นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า น่าเสียดายที่ความฝันที่เป็นจริงเมื่อ 20 ปีที่แล้วต้องสะดุดหยุดลงเพราะรัฐประหารปี 2549 และ 7 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยก็จมดิ่งสู่หลุมดำแห่งทุกข์ซ้ำเติมชีวิตคนไทย แต่ด้วยเพราะพรรคเพื่อไทยสืบทอดเจตนารมณ์ของพรรคไทยรักไทย (ทรท.) และพรรคพลังประชาชน (พปช.) 1 ปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจึงปรับเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยความเชื่อว่าถ้าพรรคไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ย่อมไม่สามารถไปซ่อมหรือสร้างเพื่อการเปลี่ยนแปลงพัฒนาประเทศไทย จึงรวมพลังปัญญาของทุกคนที่มีอุดมการณ์เพื่อประชาชน ปรับเปลี่ยนเพื่อไทยให้กลับมาสร้างฝันที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง

วันนี้ยังมีวิกฤตรออยู่ข้างหน้า แต่ทรัพยากรสำคัญที่สุดที่จะช่วยกันฝ่าวิกฤตคือ ‘คน’ ถ้าคนไทยมีปัญญา มีสุขภาพดี มีรายได้อย่างเท่าเทียม ประเทศจะก้าวข้ามวิกฤตได้ ดังนั้น ประชาชนควรได้รับโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะและปัญญาตลอดชีวิต ต้องกล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ กล้าทำไม่กลัวล้มเหลวเพราะมีหลักประกันรายได้พื้นฐาน มีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าไม่ล้มป่วยไม่ตายเพราะโรคที่ป้องกันและควบคุมได้

“ความฝันตลอด 20 ปีคือการได้ทำโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค ได้เริ่มต้นเดินหน้าสำเร็จแล้วในระดับหนึ่ง แต่เมื่อ 20 ปีผ่านไป เทคโนโลยีการแพทย์และสุขภาพได้เปลี่ยนแปลง เราสามารถนำเทคโนโลยีมาพัฒนาคุณภาพการบริการประชาชนได้ดีขึ้นอีก และจากบทเรียนโควิดทำให้เราเห็นจุดอ่อนระบบบริการสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร จึงมีความฝันที่จะพัฒนาระบบสาธารณสุขขึ้นไปอีกระดับ” ผอ.พรรคเพื่อไทยคนใหม่ กล่าวและว่า

โดยจะต้องเริ่มต้นที่การกระจายอำนาจและการกระจายทรัพยากรทางสาธารณสุข ที่ยังไปไม่ได้ไกลอย่างที่ควรจะเป็น โดยนำ ‘การแพทย์ทางไกลหรือเทเลเมดิซีน’ มาใช้ในการให้คำปรึกษาเพื่อดูแลผู้ป่วยด้วยโรคพื้นฐานที่ไม่ซับซ้อนที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยไม่ต้องเดินทางไกลมาโรงพยาบาลอำเภอ หรือโรงพยาบาลจังหวัด ใช้ระบบข้อมูลอัจฉริยะเพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินทุกคนใช้บัตรประชาชนใบเดียว เข้ารักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งได้โดยไม่ต้องเรียกหากระดาษ

ส่วนระดับประเทศต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ เพื่อสร้างเครือข่ายระบบบริการสาธารณสุขครบวงจร เริ่มจากโรงพยาบาลตำบลใกล้บ้านต่อเชื่อมกับโรงพยาบาลอำเภอ โรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ที่มีศักยภาพเท่าโรงพยาบาลของคณะแพทยศาสตร์ ภายในรัศมีไม่เกิน 100 กิโลเมตร โดยผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเข้ามารักษาในกรุงเทพมหานครอีก

นพ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีปัญหาแตกต่างออกไป เมื่อเกิดการระบาดของโควิดกลับพบว่าผู้ป่วยโควิดเข้าไม่ถึงการบริการตรวจรักษาพยาบาลเบื้องต้น เพราะไม่มีระบบการรักษาพยาบาลแบบปฐมภูมิที่สมบูรณ์ ถ้าเปรียบเทียบกับต่างจังหวัด 50 เขตของกรุงเทพมหานครคือ 50 อำเภอ และทุกเขตต้องมีโรงพยาบาลขนาด 100 เตียงเช่นเดียวกับในต่างจังหวัด

ดังนั้น จึงควรเริ่มต้นกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารโรงพยาบาลในรูปแบบองค์การมหาชน สำหรับการป้องกันและควบคุมโรค โดยเฉพาะโควิด นอกจากการเร่งฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังต้องเร่งพัฒนาระบบการตรวจคัดกรองด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค เช่น DNA Nudge และระบบ AI ปัญญาประดิษฐ์ต่อยอดจากฐานข้อมูลดิจิทัล เพื่อใช้เป็นเครื่องมือของนักระบาดวิทยา และ อสม.

“ความฝันทั้งหมดนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ถ้าเราไม่มีรัฐบาลที่มาจากประชาชน รัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ดังนั้น เราทุกคนต้องช่วยกันผลักดันความฝันของเราที่เคยร่วมฝันกันไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้วอีกครั้ง ถามตัวเองว่า ยังมีความฝันอะไรที่เรายังไม่ได้ทำและมาเปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริงเพื่อประชาชน” ผอ.พรรคเพื่อไทย กล่าวสรุป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน